"ส.ส.ฝ่ายค้าน" ขยี้แผลบาดหมาง "ประวิตร-ประยุทธ์"

             ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ วันที่สองในช่วงค่ำ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ได้อภิปรายต่อประเด็นทางการเมือง

 

             โดย นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ  อภิปรายว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คือปีศาจแห่งความชั่วร้าย  เหตุการณ์สภาล่มซ้ำซาก เพราะพล.อ.ประวิตรต้องการล้มพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยจับมือกกับฝ่ายตรงข้าม เพื่อเล่นงานพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อต้องการเป็นนายกฯ แทน และล่าสุดให้ลูกน้องแยกพรรคเพื่อไปผสมพันธุ์กับพรรคใหญ่ขั้วตรงข้าม

 

             “ประชาธิปไตยของปลอม ไปจับมือกับเผด็จการเรียบร้อยแล้ว หากชนะเลือกตั้งเตรียมเอาพี่ใหญ่เป็นนายกฯ พี่อยากเป็นนายกฯต้องเล่นงานน้อง ผมไม่อยากให้คนไทยสับสนและเลือกผิดคน ในขณะที่ประเทศ ประชาชนถังแตก แต่ว่ากลับมาหาค่าโง่กับแผ่นดิน เป็นไอ้โม่งอยู่เบื้องหลังคอยคุม ข้าวของแพงทั้งประเทศ แต่เจ้าสัวกลับขายของราคาถูกได้  ผมเชื่อว่า นายกฯ เป็นสิงห์ซ่อนเล็บ แต่วันนี้คนไทยจะได้นายกฯ คนใหม่ที่มูมมามมากที่สุด กินทุกอย่างที่ขวางหน้าใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ เอื้อเจ้าสัว” ศรัณวุฒิ อภิปราย

 

             นายศรัณย์วุฒิ ยังอภิปรายโดยตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประวิตรสร้างเครือข่ายให้พี่น้อง และคนรู้จักเข้าไปรับตำแหน่งในองค์กรต่างๆ เช่น   กสทช. ที่ พล.อ.ประวิตร ตั้งหมอรักษาหัวใจส่วนตัว และลูกน้อง ที่มีภรรยาเป็นที่ปรึกษาหน้าห้อง เจ้าสัว ไปเป็น กสทช. ให้น้องชาย พล.ต.อ. “พ.”  อยู่เบื้องหลัง บริษัทเอกชน ที่เป็นคู่สัญญากับ กสทช.​ที่มีคดีความ และอีกประเด็นคือ “บอยสกาย” ที่ขายเรือดำน้ำให้ โดยนายคนนี้แทรกซึมไปทุกหน่วยงานโดยมี พล.อ.ประวิตร อยู่เบื้องหลัง นอกจากนั้นยังมี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.)  ที่พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน ที่พบว่าได้ตั้ง พล.อ. "พ.” และนักการเมือง “ธ”ร่วมตั้งคณะทำงาน เพื่อกินงบกลางฯ ป้องกันน้ำท่วมและภัยแล้ง

             จากนั้นนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อประเด็นการคอร์รัปชั่น โดยระบุถึงกรณีที่เคยบอกไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนกันยายน2564  ว่ามีการจ่ายเงิน 5 ล้านบาท จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ฐานะประธานกรรมการจริยธรรมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ตนฐานะผู้ร้องถูกสอบเหมือนกับเป็นผู้ต้องหา แต่คนที่ถูกกล่าวโทษ คือ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มากให้คนอื่นมาแทน เรื่องจึงสรุปว่าไม่มีประจักษ์พยานชัดแจ้ง อย่างไรก็ดีตนได้ร้องเรียนไปยัง กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาฯ ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทยเป็นประธาน กมธ. และได้คลิปเสียงสนทนา ความยาว 1.02 นาที ระหว่าง ส.ส.หญิง 2 คน ที่มีคำพูดว่า รับเงินลุงป้อม ลุงตู่

 

             นายวิสาร อภิปรายโดยถอดความจากคลิปเสียง ด้วยว่าน.ส. "จ.” คุยกับ มาดาม “W" ถึงการรับเงินที่พรรคหรือยังเรียบร้อยหรือไม่ ซึ่ง “น.ส. “จ” บอกว่า ออมให้โทรบอกให้ไปรับที่เขา ไม่รู้ได้เท่าไร , มาดาม W ระบุว่า บอกให้ 2 ก่อน, น.ส. “เจ” บอกว่า ที่เหลือทำยังไง , มาดาม W บอกว่าให้ตามกับ “มิสเตอร์เอส” จากนั้น น.ส. “จ.” ถามว่าเงินของลุงตู่ หรือ ลุงป้อม ทำให้ มาดาม W บอกว่าจะของลุงตู่ หรือลุงป้อม ของใครก็เหมือนกัน ขอให้กาคะแนนให้ 2 คนด้วย

 

 

 

             “ผมเชื่อว่ากมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ จะมีหลักฐานมากกว่านี้ แต่นี่คือการคอร์รัปชั่น ผมเชื่อว่ากมธ.มีหลักฐานและยื่นฟ้อง กกต.​ต่อไป ทั้งนี้ผมไม่ได้ปกป้องตนเอง แต่ต้องการให้เห็นว่าเงินมาจากไหน ต้องการปกป้องสภาฯ รักษาเกียรติยศของพวกเรา” นายวิสาร อภิปราย

 

 

 

             ทั้งนี้ นายชวน ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ชี้แจงเพราะถูกพาดพิงว่า กรณีตั้งกรรมการสอบ เพราะนายวิสารบอกว่ามีการแจกเงินในห้องนายกฯ  แต่การสอบ กับข้อมูลที่เล่าให้ฟังเมื่อสักครู่ เป็นคนละเรื่อง เพราะกรรมการสอบว่าแจกเงินในห้องนายกฯหรือไม่ โดยการทำงานได้ทำตรงไปตรงมา เพื่อศักดิ์ศรีของสภา.