"ประยุทธ์" เล่นต่อ โนแคร์เรตติ้ง ส่งสัญญาณ "ส.ส.พปชร." ลุยไฟ
การพบปะกันระหว่าง “นายกฯ” และ “ส.ส.พลังประชารัฐ” มีการส่งสัญญาณออกมาจาก “พล.อ.ประยุทธ์” ว่ายังไม่ถอดใจ พร้อมที่จะไปต่อกับ “พลังประชารัฐ” ในสมัยหน้า เป็นการเน้นย้ำให้ขุนศึกเกิดความความมั่นใจ เร่งเรียกคืนศรัทธา หยุดภาวะเลือดไหล
ควันหลงศึกอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ของฝ่ายค้าน เมื่อ 17-18 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการหยิบยกความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดินขึ้นมาชำแหละ ขยี้แผลเลี้ยงกระแสโจมตีรัฐบาล
นับเป็นการอุ่นเครื่องก่อน “การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล” จะเวียนมาถึงในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาครั้งถัดไป ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
ท่ามกลางการจับตาถึงท่าทีของผู้นำรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะตัดสินใจกับอนาคตตัวเองอย่างไร จะเลือกฝ่าดงพงไพร ลุยไฟเข้าลานประหารของฝ่ายค้าน หรือรีเซ็ตเกม “ยุบสภา” เลือกตั้งใหม่
บรรยากาศเบื้องหลังคู่ขนานการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา “พล.อ.ประยุทธ์” มีโอกาสพบปะพูดคุยกับ ส.ส.พลังประชารัฐ หลายคนอย่างใกล้ชิด
นอกจากบรรดาลูกพรรค “พลังประชารัฐ” จะตบเท้าให้กำลังใจแล้ว สิ่งสำคัญที่หลายคนรอคำตอบจา พล.อ.ประยุทธ์ คือความชัดเจน ว่าจะเอาอย่างไรต่อไปในทางการเมือง
ในที่สุด ก็ได้เห็นทิศทางการเดินหมากตาต่อไปเป็นที่เรียบร้อย
การพบปะกันระหว่าง “นายกฯ” และ “ส.ส.พลังประชารัฐ” มีการส่งสัญญาณออกมาจาก“พล.อ.ประยุทธ์” ว่ายังไม่ถอดใจ พร้อมที่จะไปต่อกับ “พลังประชารัฐ” ในสมัยหน้า เป็นการเน้นย้ำให้ขุนศึกเกิดความความมั่นใจ เร่งเรียกคืนศรัทธา หยุดภาวะเลือดไหล
โดยหนึ่งใน ส.ส.พลังประชารัฐ ได้ถาม “พล.อ.ประยุทธ์” ว่า สามารถขึ้นป้ายรูปคู่กับตัวเองในพื้นที่ได้หรือไม่ ก็ได้รับคำยืนยันจากนายกฯ ว่า “ขึ้นป้ายได้เลย เหมือนเดิม อย่าหวั่นไหว ผมเล่นต่อ”
ขณะที่ ส.ส.ภาคใต้ ได้สะท้อนฟีดแบคในพื้นที่ว่า คนใต้ยังรักลุงตู่ ทำเอา “พล.อ.ประยุทธ์” หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ชอบใจยกใหญ่
นอกจากนั้น เริ่มจะเห็นปรากฎการณ์ที่อดีตผู้สมัครของพรรค เดินกันขวักไขว่ หลังได้รับสัญญาณจาก “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มอบหมายผู้เกี่ยวข้อง หาตัวผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จึงรีบออกตัวเร่งจับจองพื้นที่ลงกันเป็นแถว
การแสดงท่าทีมั่นอกมั่นใจของ “พล.อ.ประยุทธ์” ดูจะขัดความรู้สึกของใครหลายคน ที่ต่างมองว่าเส้นทางนับจากนี้ มีแต่ด่านโหด ด่านหิน รออยู่ข้างหน้า อย่างน้อยที่เห็นชัดๆ คือ “ศึกซักฟอก” แบบลงมติตอนกลางปี และประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ที่ “ฝ่ายค้าน” ลับดาบรอยื่น“ศาลรัฐธรรมนูญ” ตีความช่วงเดือนสิงหาคมนี้
ยังไม่นับเรื่อง ฝีมือการบริหารงาน ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในเรื่องเศรษฐกิจปากท้องข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน และประเด็นความขัดแย้งต่างๆ ที่ล้วนเป็นตัวตัดแต้ม ดึงความนิยมของรัฐบาลให้ดิ่งเหว ชนิดที่ความเชื่อมั่นแทบไม่เหลือ
เห็นได้จาก “สวนดุสิตโพล” ที่สำรวจความเห็นประชาชนถึงวิกฤติเศรษฐกิจ จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลอย่างไร อันดับ 1 ประชาชนกลุ่มตัวอย่าง 78.82% มองว่า รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ อาจยุบสภา อันดับ 2 ประชาชนไม่เชื่อมั่นรัฐบาล 76.54%
ขณะที่ 59.88% มองว่า การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ก่อนรัฐบาลครบเทอม น่าจะเป็นไปได้ และ52.19% เชื่อว่า หากได้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น ส่วน “นิด้าโพล” ที่เปิดเผยผลสำรวจว่า “ควรยุบสภาโดยเร็วที่สุด” ถึง 58.79%
ผลโพล 2 สำนัก ค่อนข้างสอดคล้องต้องกันว่า เรตติ้งของรัฐบาลและตัวของ “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่ในช่วงขาลง อย่างยากจะปฏิเสธ ในเมื่อยังไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้เป็นที่น่าพอใจของคนทั่วไปที่เดือดร้อนแสนสาหัส
อารมณ์ความรู้สึกคนในสังคม จึงค่อนข้างสวนทางกับความอกมั่นอกมั่นใจของ “พล.อ.ประยุทธ์” ที่ “ใจดีสู้เสือ” อยากจะไปต่อ ทำราวกับว่าเส้นทางข้างหน้า ปลอดโปร่ง ไร้อุปสรรคใดๆ
ทั้งที่คู่ต่อสู้ขั้วตรงข้าม และพรรคร่วมขั้วเดียวกัน ในตอนนี้ ต่างวางเกมขย้ำ “พลังประชารัฐ” และ “พี่น้อง 3 ป.” ให้เละอยู่รอมร่อ