ลับลวง "ป้อม-ธรรมนัส" สู่เป้าหมายอภิมหาดีล
การประชุมใหญ่ "พลังประชารัฐ" และ "เศรษฐกิจไทย" ปลายเดือน มี.ค.นี้ อาจได้เห็นใบหน้าคีย์แมนรัฐบาล ซ่อนอยู่ในกรรมการบริหารทั้งสองพรรค
เหมือนละครเรื่องเกมลับสลับร่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เล่นบทไม่เลือกข้าง วางมาดพระเอกขอยืนข้างประชาชน ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซือแป๋บูรพาพยัคฆ์ ยังท่องบทเดิม "ไม่มีอะไรๆๆ"
ตราบใดที่ พล.อ.ประวิตร ยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ประเมินได้ว่า พรรคเศรษฐกิจไทยเหมือนเป็นพรรคสาขา ยกเว้นพลังประชารัฐเปลี่ยนมาอยู่ในมือ "พล.อ.ประยุทธ์" พรรคของธรรมนัสก็จะเด้งไปอยู่พรรคร่วมฝ่ายค้านเต็มตัว
อย่าไปถือสากับคำพูดของ ร.อ.ธรรมนัส เรื่องขอเป็นพรรคอิสระ และพร้อมจะโหวตสวนในศึกซักฟอก เพราะใครก็รู้ว่า เจ้าของพรรคเศรษฐกิจไทยตัวจริง ไม่ใช่ธรรมนัส
ความเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้ พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส ต่างมีกิจกรรมช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เดียวกัน เหมือนมีการเขียนสคริปต์ล่วงหน้า
วันพุธที่ 2 มี.ค.2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ตรวจราชการและติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งอีกด้านหนึ่งก็คือ ภารกิจการเมือง เพราะพลังประชารัฐ มี ส.ส. 2 คนใน จ.นราธิวาส
ดังนั้น "บิ๊กป้อม" จึงไปพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส เขตเลือกตั้งของ วัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 1 และ อ.สุไหงโก-ลก เขตเลือกตั้งของ สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2
พล.อ.ประวิตร ล่องใต้เที่ยวนี้ ขนาบข้างด้วย สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค และสุชาติ ชมกลิ่น ผู้อำนวยการพรรค พร้อมกับคนสนิท พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ว่าที่หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย และวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ก่อนหน้านั้น วันจันทร์ที่ 28 ก.พ.2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ อ.เมือง และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส พร้อมบ้านใหญ่ กูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส ที่ยกทีมมาต้อนรับอย่างอบอุ่น
ร.อ.ธรรมนัส ลงพื้นที่ในนามมูลนิธิธรรมนัสฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งมองตามรูปการณ์แล้ว ผู้กองธรรมนัสน่าจะไปเคลียร์พื้นที่ให้ พล.อ.ประวิตร ก่อนที่จะลงไปนราธิวาสในวันพุธที่ผ่านมา
ปลายปีที่แล้ว ร.อ.ธรรมนัส ได้นำ "บิ๊กป้อม" มาประชุมสาขาพรรคพลังประชารัฐ ที่ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อส่งเสริมบทบาท ส.ส.บีลา สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ให้เป็นขุนพลเอกปลายด้ามขวาน ร่วมกับกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส
ด้วยเหตุนี้ ธรรมนัสจึงต้องลงมานราธิวาส เพื่อต้องการโชว์ว่า ส.ส.บีลา ยังมีความใกล้ชิดกับเขา และไม่ได้ย้ายข้างไปอยู่ฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ หลังมีภาพ ส.ส.บีลา เข้าพบนายกรัฐมนตรีที่อาคารรัฐสภา
ส่วนประเด็นที่ธรรมนัส ออกมาบอกสื่อว่า ไม่ได้พบหน้าบิ๊กป้อมมานานแล้วนั้นไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะการขยับตัวของธรรมนัสในกรณีนราธิวาส ดูสอดประสานกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ถ้ายังจำกันได้ วันที่มีการลงมติขับกลุ่มธรรมนัสออกจากพรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.หลายคนพูดว่า เหมือนการแบ่งทีมฟุตบอล แยกเป็นทีมเอ และทีมบี โดยการดำเนินการของประธานสโมสรบูรพาพยัคฆ์
สำหรับขุมกำลังของธรรมนัสจาก 21 คน เหลืออยู่ 18 คน พบว่า มีอยู่ 11 คน ที่เป็นสายตรงธรรมนัส ประกอบด้วย บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา, จีรเดช ศรีวิลาส ส.ส.พะเยา,ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร, ปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน ,วัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง ,ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก ,ภาคภูมิ บุญประมุข ส.ส.ตาก และ พรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร, จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร และ พล.ต.ต.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
กลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือ 6-7 คนนั้นเดินตามธรรมนัสมาตั้งแต่สมัยการเลือกตั้งปี 2562 กระทั่งธรรมนัสเป็น รมช.เกษตรฯ พวกเขาก็เป็นองครักษ์พิทักษ์ผู้กอง จึงถือว่าเป็นกระดูกสันหลังของพรรคเศรษฐกิจไทย
เครือข่ายวิรัช รัตนเศรษฐ 3 คนคือ ทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา, เกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา และณัฐพงษ์ จรัสพีรพงษ์ ส.ส.สุรินทร์
วันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังใช้บริการ "วิรัช" ในการประสานงาน ส.ส.พลังประชารัฐ เนื่องจากเสี่ยวิรัชยังมีบารมีในกลุ่ม ส.ส.นกแล ส่วน สมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น, ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี,ยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี ยังขึ้นต่อบ้านป่ารอยต่อ
คนการเมืองในซีกฝ่ายค้านอ่านเกมของ"บิ๊กป้อม"ทะลุปรุโปร่ง การเลือกเดิน 2 ขาคือ พลังประชารัฐและเศรษฐกิจไทย ก็เพื่อบรรลุเป้าหมายอภิมหาดีล หลังการเลือกตั้งสมัยหน้า
พล.อ.ประวิตร เป็นอดีตนายทหารการเมืองที่ต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ บุคลิกของพี่ใหญ่ใจถึงพึ่งได้ ทำให้ "บิ๊กป้อม"กลายเป็นศูนย์รวมของนักเลือกตั้งอาชีพ
ภาพมือประสานสิบทิศของ พล.อ.ประวิตร อาจคล้ายกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมัยที่เป็นมือทำงานการเมืองให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หาก "บิ๊กป้อม" คุมพลังประชารัฐไปจนถึงหลังเลือกตั้งครั้งหน้า ก็อาจได้เป็นรัฐบาลสมานฉันท์ ที่ไม่มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกสมัยหนึ่ง
อย่าได้แปลกใจที่ ทักษิณ ชินวัตร จะพยายามย้ำคำว่า "กลับแน่ พ.ศ.นี้" เหมือนคนแดนไกลมีความมั่นใจในสัญญาใจล่วงหน้าจากใครบางคน ซึ่งแกนนำเพื่อไทยก็พูดถึงรัฐบาลปรองดอง เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้
ดังนั้น การประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเศรษฐกิจไทย ปลายเดือน มี.ค.นี้ ก็อาจจะได้เห็นใบหน้าคีย์แมนรัฐบาลอภิมหาดีลของ "บิ๊กป้อม" ซ่อนอยู่ในกรรมการบริหารทั้งสองพรรค