เผยสถิติย้อนหลัง 10 ปี ไทยเสียชีวิตจากการจมน้ำถึง 35,915 คน
รัฐบาลเตือนประชาชนระมัดระวังโรคและภัยสุขภาพในช่วงฤดูร้อน แนะผู้ปกครองดูแลลูกหลานใกล้ชิดไม่ปล่อยให้เล่นน้ำลำพัง เผยสถิติย้อนหลัง 10 ปี ไทยเสียชีวิตจากการจมน้ำถึง 35,915 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มากถึงร้อยละ 20.5
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศ เรื่อง การป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย พ.ศ. 2565 โดยได้แจ้งเตือนถึง 5 โรค และ 3 ภัยสุขภาพ ที่ประกอบด้วยโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ 5 โรค ได้แก่
- โรคอุจจาระร่วง
- โรคไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย
- โรคอาหารเป็นพิษ
- อหิวาตกโรค
- โรคไวรัสตับอักเสบ เอ
ส่วน 3 ภัยสุขภาพ ได้แก่
- การเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อน
- ผลกระทบจากหมอกควัน
- การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการจมน้ำ
ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังพร้อมกับปฏิบัติตามข้อแนะนำของกรมควบคุมโรคในการป้องกันโรคและภัยสุขภาพ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อลดโอกาสการเกิดโรคและการสูญเสีย เพราะหลายโรคที่มาพร้อมกับฤดูร้อนเป็นโรคตามฤดูกาลที่รักษาหายได้ แต่ภัยสุขภาพบางประเภทก็นำมาซึ่งความสูญเสีย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนของการเสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อนนั้น ข้อมูลของกรมควบคุมโรคระบุว่า ช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. ของทุกปีจะมีประชาชนเสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อน ซึ่งในปี 2558-2564 มีผู้เสียชีวิต 56,60,24,18,57,12 และ 7 คนตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย เช่นในปี 2564 ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายทั้งหมดเป็นเพศชาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โดยปัจจุบันสภาพของอุณหภูมิโลกได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและระยะเวลาฤดูร้อนยาวนานขึ้น จะต้องมีการดูแลสุขภาพให้ปรับให้ทันต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โดยงดการออกกำลังกายหรือทำงานกลางแดดเป็นเวลานาน ดูแลร่างกายไม่ให้ขาดน้ำ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ง่าย ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยาเสพติดในช่วงที่มีอากาศร้อน
ขณะที่การจมน้ำก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เกิดการเสียชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในช่วง10ปีที่ผ่านมา (2555-2564) ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำถึง 35,915 คน โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีมากถึงร้อยละ 20.5 (7,374คน) โดยเด็กช่วงอายุ 5-9 ปี เป็นกลุ่มที่เสียชีวิตมากที่สุดที่ 2,867 คน และช่วงเดือนมี.ค. - พ.ค. เป็นช่วงที่เสียชีวิตมากที่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 32.7 ของการจมน้ำเสียชีวิตตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการชวนกันไปเล่นน้ำตามลำพังที่แหล่งน้ำตามธรรมชาติไม่มีผู้ใหญ่ดูแล ซึ่งการป้องกันนั้นทั้งผู้ปกครองและคนในชุมชนต้องร่วมกันสอดส่อง ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด จัดการแหล่งน้ำเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่น สร้างรั้ว ติดป้ายคำเตือน จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำไว้บริเวณแหล่งน้ำเสี่ยงสำหรับการช่วยเหลือ และเมื่อพบเห็นคนตกน้ำ ให้รีบโทรแจ้ง 1669 และหาอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้หรือเสื้อชูชีพ โยนให้คนที่ตกน้ำจับพยุงตัว เป็นต้น