“สุเทพ”เชียร์“สกลธี”ชิงผู้ว่าฯกทม.-ยันไร้พรรคการเมืองหนุนหลัง

“สุเทพ”เชียร์“สกลธี”ชิงผู้ว่าฯกทม.-ยันไร้พรรคการเมืองหนุนหลัง

“สุเทพ”ประกาศหนุน“สกลธี”ชิงผู้ว่าฯกทม.-ยันไร้พรรคการเมืองหนุนหลัง เห็นผู้สมัครคนอื่นมีกลุ่มการเมืองคอยสนับสนุน ระบุเป็นรองฯมาร่วม 4 ปี รู้ปัญหาดีกว่าคนอื่น

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP21 ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” โดยระบุตอนหนึ่งว่า ในสัปดาห์นี้มีข่าวที่น่าตื่นเต้น คือข่าวที่นายสกลธี ภัททิยกุล ลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แล้วเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสังกัดอิสระ คือไม่สังกัดพรรคอะไร ตนก็ตื่นเต้นกับข่าวนี้ 

“ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็ตื่นเต้นกับข่าวนี้ ที่บอกว่าตื่นเต้นกับข่าวนี้ เพราะรู้จักกับ นายสกลธีดี ตั้งแต่สมัยที่เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต นายสกลธีมาสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และเสนอตัวที่จะลงสมัครเป็น ส.ส.ของคนกรุงเทพฯ นายสกลธีเป็นคนหนุ่ม มีความรู้ ผมจึงเต็มใจรับคนหนุ่มชุดนี้เข้ามาเป็นกำลังของพรรคประชาธิปัตย์ แล้วส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 4 กทม. นายสกลธีก็ได้รับความไว้วางใจได้รับเลือกเป็น ส.ส.กทม.”
 

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ในปี 2556-2557 เมื่อตนตัดสินใจลาออกจากการเป็น ส.ส. ลาออกการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เพื่อมาร่วมขบวนการต่อสู้กับมวลมหาประชาชน กปปส.เพื่อต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เห็นว่าเป็นร่างกฎหมายที่ออกมาเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว เพื่อที่จะล้างความผิดให้คนที่กระทำความผิดฉ้อราษฎร์บังหลวง ล้างความผิดให้คนที่ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง 

“ตอนนั้นพี่น้องก็ออกมาร่วมการต่อสู้เป็นจำนวนมาก สู้กันยาวนาน 204 วัน นายสกลธีก็เป็นคนสำคัญคนหนึ่งที่มาเป็นแกนนำร่วมการต่อสู้ หลังการต่อสู้คราวนั้นสิ่งที่ได้รับก็คือ กลายเป็นจำเลยในคดีก่อการร้าย กบฏ บุกรุกสถานที่ราชการ ขัดขวางการเลือกตั้ง อั้งยี่ ซ่องโจร นายสกลธีเป็นชุดแรกที่ถูกดำเนินคดี ตนเป็นชุดที่สอง พวกตนกลุ่มใหญ่เป็นจำเลยในชุดที่สอง”
 

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ในระหว่างที่กำลังสู้คดี นายสกลธีได้ไปดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าฯกทม. เกือบ 4 ปีที่ดำรงตำแหน่งมาปรากฏผลงานมากมาย เขาเป็นคนหนุ่มเข้มแข็ง ขยันทำงานให้ประชาชนชาว กทม.มาร่วม 4 ปี ในฐานะรองผู้ว่าฯ ตนจึงคิดว่านายสกลธีตัดสินใจคราวนี้น่าสนับสนุน เพราะเขาเคยเป็น ส.ส. เคยเป็นรองผู้ว่าฯกทม. มีประสบการณ์เรื่องของ กทม.มากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ ในสายตาของตน และแน่นอนที่พวกเราร่วมเป็นร่วมตาย นอนกลางดินกินกลางถนนร่วมกันมา 6-7 เดือน ร่วมกันเป็นจำเลย สิ่งที่เราทำเพื่อชาติบ้านเมือง

“ใจผมโน้มเอียงไปในทางสนับสนุนคุณสกลธี วันนี้ก็ต้องเรียนกับพี่น้องตรงๆ ว่า ถ้าผมสามารถที่จะช่วยเหลือสนับสนุนคุณสกลธีได้ด้วยวิธีไหนก็ตาม ผมก็ตั้งใจจะทำ เพราะว่าเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์มาด้วยกัน เป็นคนหนุ่ม เป็นคนที่จะเป็นอนาคตของ กทม.ในวันข้างหน้า การสมัครรับเลือกตั้งของคุณสกลธีไม่สังกัดพรรคไหน ประกาศตัวชัดเจน และผมสืบดูแล้วไม่สังกัดพรรคไหนจริงๆ ส่วนคนอื่นที่ประกาศตัวว่าอิสระบ้าง ไม่อิสระบ้างนี่ เบื้องหลังมีสังกัดพรรคทั้งนั้น”