ร้อง ป.ป.ช.สอบก๊วน ส.ส.เพื่อไทย บินพบ “ทักษิณ” ผิดจริยธรรมหรือไม่
“ศรีสุวรรณ” ลุยร้อง ป.ป.ช. สอบก๊วน ส.ส.เพื่อไทย บินพบ “ทักษิณ” สิงคโปร์ ส่อผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ เหตุเป็น “นักโทษหนีคดี” ศาลพิพากษาจำคุกแล้ว - ยังมีเรื่องทุจริตถูกไต่สวนอยู่
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวน และมีความเห็นกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง เดินทางจากประเทศไทย ไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ต้องหาหรือนักโทษหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ ณ ประเทศสิงคโปร์ ถือว่าจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่สื่อมวลชนได้รายงานว่ามีแกนนำ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ราว 6-7 คนในพื้นที่อีสาน นำโดย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำภาคอีสาน, นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี และประธาน ส.ส.อีสาน และนางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ เดินทางจากประเทศไทย ไปพบนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เดินทางมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีที่ประเทศสิงคโปร์ช่วง 6-12 มี.ค.65 ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนเป็นอย่างมากถึงความเหมาะสมในการไปพบปะกันดังกล่าว เนื่องจากนายทักษิณ นั้นถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาสั่งจำคุกแล้วหลายคดี อาทิ คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว, คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลสหภาพพม่า, คดีให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน โดยบริษัท ชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า และยังมีการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.อีก 2 เรื่อง คือ กรณีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ลอตสอง จำนวน 8 สัญญา, กรณีกล่าวหาการอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินแบบ A 340-500 และ A340-600 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระหว่างปี 2545-2547 ทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงถือว่านายทักษิณเป็นผู้ต้องหาหรือนักโทษหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ จึงชอบที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมืองโดยเร็ว
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนด้านนิติบัญญัติ เดินทางไปพบปะหรือคบค้าสมาคมด้วยนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เนื่องจากเป็นการคบหาสมาคมกับ ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่งได้ ดังนั้นสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิด ส.ส.ทั้งหมดที่เดินทางไปพบปะนายทักษิณ ดังกล่าวตามครรลองของกฎหมาย