"สุธา" เย้ย "มท." มาผิดทาง ใช้ ผู้ว่าฯ "แก้จน" ขนาด "ประยุทธ์" ยังทำไม่ได้
"สุธา" ซัด "อนุพงษ์" ไม่เข้าใจกลไกแก้ปัญหา "คนจน" หลัง ตั้งเป้า ให้เสร็จก่อน 30ก.ย.นี้ ชี้ ต้องใช้นโยบายที่ถูกต้อง แทนกลไกราชการ ระบุ ต้นเหตุมาจากการบริหารของ "ประยุทธ์" ทำหนี้พุ่ง เป็นปัญหาใหญ่กว่า "มท." จะทำลำพัง ต้องบูรณาการ ไล่ให้ลาออก ถ้าไร้ความสามารถ
นายสุธา ชันแสง ผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะอดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุดสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ มุ่งเป้าแก้ปัญหาความยากจน ขยับเป้าหมายแก้ปัญหาคนจนในระบบ 1,025,782 คน กลุ่มเปราะบาง 10 ล้านคนให้เสร็จสิ้นก่อน 30 ก.ย. นี้ ว่า เป็นสิ่งที่สะท้อนความไม่เข้าใจในการแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาลชุดนี้ ที่คิดจะใช้กลไกราชการเป็นธงนำในการแก้ปัญหา แทนที่จะใช้นโยบายที่ถูกต้องจากรัฐบาลในการขจัดความยากจนให้หมดไป
“รัฐบาลต้องเข้าใจว่าปัญหาความยากจนเกิดจากการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับตั้งแต่คสช. ยึดอำนาจจนมาถึงวันนี้ก็เกือบ 8 ปีแล้ว โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน และหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ของประเทศไทย และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 5% สูงสุดในรอบ 13 ปี จากความผิดพลาดของรัฐบาลเอง ที่กู้เงินมาอัดฉีดเม็ดเงินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ไม่เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ดังนั้น หากการสั่งข้าราชการให้ไปแก้ไขปัญหาความยากตามที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และนายอำเภอ 878 อำเภอแล้วทำได้จริง ความยากจนคงหมดไปจากประเทศไทยนานแล้ว"
นายสุธา กล่าวอีกว่า ปัญหาความยากจน เป็นปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าที่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งจะดำเนินการได้เพียงกระทรวงเดียว ต้องบูรณาการร่วมกันจากหลายกระทรวง ภายใต้นโยบายที่ถูกต้องและมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ
ดังนั้น จึงเห็นว่าสิ่งแรกที่รัฐบาลควรทำคือต้องทบทวนความคิดและนโยบายที่ผิดพลาดจากการบริหารงานในช่วงที่ผ่านมา แล้วต้องทำให้การแก้ปัญหาความยากจนเป็นวาระแห่งชาติ เร่งประสานงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการอย่างจริงจัง หรือหากไม่มีสามารถมากพอ ก็ควรลาออกไป เพื่อให้คนที่มีความรู้ความสามารถ และฝีมือถึงเข้ามาบริหารแทน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ตลกอย่างยิ่ง ที่จะให้ผู้ว่าฯหรือนายอำเภอแก้ปัญหาความยากจน ขนาดระดับ พล.อ.ประยุทธ์ ถืออำนาจพิเศษอยู่มาเกือบแปดปียังแก้อะไรไม่ได้เลย แล้วข้าราชการประจำจะแก้ใน 6 เดือนได้อย่างไร