นายกฯ ปลื้ม “Soft Power” ไทยเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง

นายกฯ ปลื้ม “Soft Power” ไทยเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง

นายกฯ ยินดีที่ “Soft Power” ไทยเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทีมไทยแลนด์ร่วมงานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาติฮ่องกง ประจำปี 2565

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีต่อกระแสความนิยมวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศที่โดดเด่นมากขึ้นแม้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งจากรายการโทรทัศน์ งานดนตรี เทศกาลอาหาร นิทรรศการแสดงสินค้าและบริการ

รวมถึงสื่อออนไลน์ต่าง ๆ อาทิ ภาพยนตร์ ละคร ซีรี่ส์ เพลง และโฆษณา ซึ่งได้รับความสนใจและผลตอบรับจากผู้ชมชาวต่างชาติอย่างล้นหลามโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นตลาดส่งออกความบันเทิงหลักของไทย ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่รัฐบาลเร่งผลักดันเป็นสินค้าหลักในการส่งออกสู่ตลาดสากล

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ของนายกฯ ที่สนับสนุนการใช้ “Soft Power” นำเสนออัตลักษณ์ไทยสู่สายตาชาวโลก ผสมผสานนโยบายพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขันและแนวคิดเศรษฐกิจใหม่ BCG (Bio-Circular-Green) เป็นโจทย์ให้กระทรวงวัฒนธรรมสานต่อแนวทางเพื่อพัฒนาความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ

โดยได้จัดงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย ‘CCPOT (Community Cultural Product of Thailand) GRAND EXPOSITION’ ขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งประสบความสำเร็จในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมไทยทั้งในและต่างประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วกว่า 600 ล้านบาท 
 

ในการนี้ รัฐบาลได้ขยายผล ต่อยอดศักยภาพสื่อบันเทิงฝีมือคนไทยสู่ตลาดนานาชาติ โดยทีมประเทศไทยจะเข้าร่วมงาน ตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาติฮ่องกง ประจำปี 2565 (Hong Kong International Film & TV Market (FILMART) 2022) ภายใต้ชื่อ "Content Thailand" ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 14 - 17 มีนาคม 2565

ถือเป็นตลาดซื้อขายภาพยนตร์และสื่อขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย เป็นโอกาสสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการในตลาดสื่อและภาพยนตร์ไทยจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในงานนี้ รัฐบาลไทยมุ่งหวังขยายเครือข่ายทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการให้มีคู่ค้าหรือผู้ร่วมทุนผลิตเนื้อหารายใหม่ ๆ รวมถึงสร้างโอกาส สร้างรายได้ ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ดิจิทัลคอนเทนต์ไทย

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการบูรณาการนโยบายเศรษฐกิจใหม่เข้ากับแผนงานด้านวัฒนธรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากเป็นการดำเนินงานตามเป้าหมายด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยให้มีการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์แล้ว ยังถือเป็นก้าวสำคัญของการสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเศรษฐกิจฐานราก พลิกฟื้นชุมชน"

รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญเพื่อเสริมศักยภาพคนไทยเตรียมพร้อมสู่การส่งออกวัฒนธรรมในอนาคต และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีให้กำลังใจทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ทุ่มเทนำเสนอวัฒนธรรมและค่านิยมอันดีงาม มีเอกลักษณ์ของไทย เพื่อประโยชน์คนไทย และเพื่อเศรษฐกิจไทย ในประชาคมโลกต่อไป” นายธนกรฯ กล่าว