ระเบียบรัฐสภา ห้ามใช้ "ลานประชาชน" ทำกิจกรรมการเมือง โดยพลการ
โฆษกสภาฯ เผย รัฐสภาออกระเบียบใหม่ หวังดูแล-ความเรียบร้อย พบรายละเอียด ตั้งกรรมการดูแล - ห้ามบุคคลใช้ลานประชาชนเพื่อกิจกรรมการเมือง-สังคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจเข้ม อาหาร วัสดุ จดหมาย สัมภาระ รมต.-สื่อฯ-บุคคลทั่วไป
ว่าที่เรือตรี ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และโฆษกสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่เว็ปไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบรัฐสภา ว่าด้วยการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา พ.ศ.2565 และมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (15 มีนาคม) ว่า เป็นระเบียบรัฐสภาที่ออกใหม่หลังจากที่รัฐสภาย้ายที่ตั้งมาในพื้นที่แยกเกียกกาย ส่วนที่เคยใช้เมื่อครั้งที่รัฐสภาตั้งอยู่ที่แยกอู่ทองในนั้น มีระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสถานที่ประะชุมของรัฐสภาและบริเวณรัฐสภา บังคับใช้ อย่างไรก็ดีการบริหารจัดการพื้นที่ของรัฐสภา จำเป็นต้องมีคณะกรรมการดูแล และตามระเบียบกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา เพื่อจัดสรรการใช้สอยในพื้นที่ โดยมีข้าราชการจากหลายหน่วยงาน อาทิ อธิบดีกรมธนารักษ์ เพราะยอมรับว่าพื้นที่ใช้สอยในอาคารรัฐสภา เช่น ที่ตั้งของธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา ทางธนาคารต้องเจรจาค่าเช่ากับกรมธนารักษ์, ปลัดกรุงเทพมหานคร เพราะมีพื้นที่ส่วนรอบนอกที่ต้องใช้การบริหารจัดการร่วมกัน เป็นต้น
ว่าที่เรือตรี ยุทธนา กล่าวด้วยว่าความสำคัญของระเบียบดังกล่าว เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการพื้นที่ที่เหมาะสมและมีความเรียบร้อยในพื้นที่ จึงต้องใช้ความรวมมือจากหลายหน่วยงานไม่เฉพาะฝั่งข้าราชการของรัฐสภาเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ระเบียบรัฐสภา ว่าด้วยการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา พ.ศ.2565 นั้น มีสาระสำคัญ คือ ให้มีคณะกรรมการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา มีเลขาธิการสภาฯ เป็นประธานกรรมการ มีเลขาธิการวุฒิสภาเป็นรองประธาน และกรรมการอื่นๆ อีก 9 คน ได้แก่ อธิบดีกรมธนารักษ์, อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง, ปลัดกทม., ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง, ผู้แทนสภาวิศวกร, ผู้แทนสภาสถาปนิก, รองเลขาธิการสภา หรือที่ปรึกษากำกับงานด้านอาคารสถานที่ และรองเลขาธิการวุฒิสภา หรือที่ปรึกษาที่ดูแลงานอาคารสถานที่
พร้อมกำหนดอำนาจ อาทิ ให้ความเห็นชอบแผนบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา ตามที่ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาเสนอ, เสนอแนะและให้คำปรึกษาส่วนราชการสังกัดรัฐสภาในการบริหารจัดการพื้นที่, เสนอแนะและให้คำปรึกษาเกี่วกับการตรวจสอบสภาพอาคารรัฐสภา รวมถึงระบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม, ให้คำปรึกษากับการปรับปรุงโครงสร้างและอัตรากำลัง เป็นต้น
นอกจากนั้นยังกำหนดแนวทางปฏิบัติในการบริหารอาคารและความปลอดภัย อาทิ ให้บุคคลทั่วไปใช้งานพื้นที่ลานประชาชนได้ แต่กิจกรรมทางการเมืองหรือกิจกรรมทางสังคมต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าส่วนราชการรัฐสภา, การรักษาความปลอดภัยพื้นที่ต้องคำนึงถึงสิทธิของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในรูปแบบรัฐสภา และเพื่อรักษาความปลอดภัยของสมาชิกรัฐสภา ฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่โดยอิสระ ปราศจากการแทรกแซงครอบงำ
ระเบียบดังกล่าวระบุด้วยว่า พื้นที่โดยรอบอาคารรัฐสภาสามารถเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึง ยกเว้นเพื่อความปลอดภัยของบุคคลและอาคาร โดยส่วนราชการสังกัดรัฐสภากำหนดห้ามบุคคลทั่วไปเข้าถึงพื้นที่ใดในอาคารรัฐสภาและเขตพื้นที่ รวมถึงควบคุมการผ่านเข้า - ออก ต้องถูกตรวจสอบสัมภาระของบุคคลด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ตรวจสอบทางกายภาพของบุคคลนั้นด้วย และกำหนดให้สมาชิกรัฐสภา รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ บุคลากรในวงงานรัฐสภาา สื่อมวลชน บุคคลที่มาติดต่อต้องถูกตรวจสอบสิ่งของ จดหมาย พัสดุ อาหาร หรือสัมภาระใด ที่นำเข้ามาในพื้นที่ โดยวิธีกายภาพ , อิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใดด้วย