“มาดามเมืองหลวง”เพื่อไทย “เจ๊แจ๋น พวงเพ็ชร” สายตรง

ดีเดย์ 14 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวประกาศความพร้อมส่ง ส.ก. ครบ 50 เขต ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มี.ค.นี้ โดยมี “พวงเพ็ชร ชุนละเอียด” นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก.พรรคเพื่อไทย

ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านั้น “เจ๊แจ๋น พวงเพ็ชร” นั้น ได้รับการแต่งตั้งให้รับผิดชอบการเลือกตั้ง ส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพฯ ร่วมกับ เฮียเพ้ง "พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" โดยการเห็นชอบของคนแดนไกล

แม้ “เจ๊แจ๋น พวงเพ็ชร” จะไม่เคยเป็นรัฐมนตรี ไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตในพรรค แต่ก็ได้รับการยอมรับจาก ส.ส.เพื่อไทย เพราะสไตล์การทำงานแบบใจถึงพึ่งได้ เธอเป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่นักสร้างภาพ

พวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นชาวกรุงเทพมหานคร แต่แจ้งเกิดทางการเมืองครั้งแรกที่ อ.ภูเรือ จ.เลย ด้วยการได้รับเลือกเป็น ส.อบจ.เลย และกลายเป็นขวัญใจชาวภูเรือ

การเลือกตั้ง 2539 พวงเพ็ชร ตัดสินใจสมัคร ส.ส.เลย ในนามพรรคชาติพัฒนา โดยลงสมัครคู่กับ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก อดีต ส.ส.เลย หลายสมัย ผลเลือกตั้งครั้งนั้น เจ๊แจ๋น ได้ 109,880 คะแนน ขณะที่ พล.อ.อาทิตย์ สอบตก

หลังจากนั้น พวงเพ็ชรก็ย้ายมาเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยไม่เคยเป็นรัฐมนตรี แต่ก็ได้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ปรึกษารองนายกฯ ที่ปรึกษารัฐมนตรี และเลขานุการรัฐมนตรี ย่อมแสดงว่า เธอมีคอนเนกชั่นไม่ธรรมดา

ปี 2561 พวงเพ็ชร รับโจทย์จากคนดูไบให้สร้างพรรคไทยรักษาชาติ จึงนำเอาพรรคไทยรวมพลัง ที่มี “กมล วิจิตรโสภาพันธ์” เป็นหัวหน้าพรรค มาเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคไทยรักษาชาติ

ว่ากันว่า พวงเพ็ชรทำงานร่วมกับ เฮียเพ้ง พงษ์ศักดิ์ ในการทำคลอดพรรคไทยรักษาชาติ และได้ตำแหน่งประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แต่สุดท้าย ไทยรักษาชาติเจออุบัติเหตุ ถูกยุบพรรค พวงเพ็ชรก็เงียบหายไป พร้อมกับเฮียเพ้ง แต่ระหว่างนั้น เธอยังเกาะกลุ่มอยู่กับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ และปัจจุบันก็เกาะกลุ่มแกนนำสายอีสาน เพื่อไทย

หลังคนดูไบไฟเขียวให้จัดทัพเพื่อไทย “พวงเพ็ชร”ก็กลับเข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง พร้อมกับเฮียเพ้ง และอดีตคนไทยรักษาชาติ ที่ไม่ติดบ่วงคดียุบพรรค

ตั้งแต่ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" และอดีตทีมยุทธศาสตร์ โบกมือลาไปตั้งพรรคใหม่ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานพื้นที่เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ

เฉพาะสมรภูมิเมืองกรุงจะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเจ้าแม่เมืองหลวงคนเก่า ยกทีมบางส่วนไปสร้างพรรคใหม่ พรรคเพื่อไทย จึงได้แบ่งความรับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็น 6 โซน ปรากฏว่า พวงเพ็ชรได้เป็นประธานโซนที่ 2 เขตดินแดง ห้วยขวาง พญาไท ราชเทวี จตุจักร บางซื่อ หลักสี่ จตุจักร ลาดพร้าว และวังทองหลาง

ดังนั้น ช่วงเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ พวงเพ็ชรจึงมีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการ ทำให้การหาเสียงดำเนินไปอย่างคึกคัก

สำหรับการแบ่งความรับผิดชอบให้กับ 6 แม่ทัพเมืองหลวง 6 โชน ไม่ผูกขาดอยู่ในมือคนใดคนหนึ่ง ลึกๆ แล้ว คงหนีไม่พ้น เฮียเพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ในฐานะแม่ทัพตัวจริง

พลันที่เฮียเพ้งขยับเป็นแม่ทัพใหญ่ ก็ต้องมีขุนพลหญิงอย่างเจ๊แจ๋น มาช่วยประสานงานในพื้นที่ เพราะนักการเมืองหญิงคนนี้มากด้วยคอนเน็กชั่น

เจ๊แจ๋น พวงเพ็ชร จึงก้าวขึ้นเป็น “มาดามเมืองหลวง”คนใหม่ด้วยประการฉะนี้ ที่คนเพื่อไทยการันตีฝีมือไม่แพ้เจ้าแม่เมืองหลวงคนเดิม