ปมร้อน "ผบ.ทร." โยกสลับขั้ว "เลื่อนยศ ปรับ ย้าย" วัฏจักรขัดแย้งทัพเรือ

ปฏิบัติการโยกสลับหน่วย สลับตำแหน่งของ “บิ๊กเฒ่า” พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นพอสมควร

โดยเฉพาะการดึง “บิ๊กจอร์จ” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ รองเสธทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กลับกองทัพเรือ แล้วส่ง “บิ๊กปู” พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทร.ไปแทน

หากได้ติดตามข่าวคราวก็จะรู้ว่า ปัญหาโยกย้ายของ “กองทัพเรือ” ระอุคุกรุ่นมาในห้วง 2 ปี ที่ “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ครองเก้าอี้ ผบ.ทร. ทั้งกรณีปฏิเสธรับ “บิ๊กเฒ่า” รองปลัดกระทรวงกลาโหมกลับกองทัพเรือ

รวมถึงเสียงร่ำลือที่ไม่ได้จำกัดอยู่ในวง“ลูกประดู่” แต่ขยายวงกว้างข้ามเหล่าทัพ กับวิธีพิจารณาเลื่อนยศ ขยับตำแหน่งสำคัญของ“ บิ๊กลือ” ที่เอาเรื่อง “โหวงเฮ้ง” เข้ามาเกี่ยวพัน จนเป็นเหตุให้ทหารเรือหลายคนถูกเด้งเข้ากรุ บางคนก็ถูกดอง จนต้องไปเติบโตนอก “กองทัพเรือ”

“บิ๊กจอร์จ” ก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้จะมี “โปร์ไฟล์” เป็นผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เติบโตจากฝ่ายอำนวยการ กรมยุทธการทหารเรือ เป็น ผอ.สํานักกิจการความมั่นคง และรองเจ้ากรมยุทธการ ทร. ก่อนที่ “บิ๊กลือ” จะขยับให้เป็นผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3

เส้นทางที่เหมือนจะดี กลับหักเห หลัง “บิ๊กลือ” เลือกผลักดันน้องรัก “บิ๊กปู” ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 เป็น ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ครองยศ “พลเรือเอก” คุมกำลังรบทางเรือ เข้าไลน์ 5 เสือ ทร. ในขณะที่ “บิ๊กจอร์จ” ถูกดองไว้ที่ตำแหน่งผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 ครองยศ “พลเรือโท” ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน

ทั้ง “บิ๊กปู-บิ๊กจอร์จ” ต่างเป็นเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) ความรู้ความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และโปร์ไฟล์ “บิ๊กปู” ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร เพราะเคยดำรงตำแหน่งสำคัญมาทั้งด้านการปกครองบังคับบัญชา และงานฝ่ายอำนวยการหลายด้าน แต่ไม่ได้เป็นผู้ช่วยทูตทหาร อีกทั้งยังมีความอาวุโสน้อยกว่า ซึ่งหากยึดธรรมเนียมปฏิบัติ และความเหมาะสมแล้ว ตำแหน่ง ผบ.กร. ต้องเป็นของ “บิ๊กจอร์จ” ไม่ใช่ “บิ๊กปู”

แต่เมื่อธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ใช่กฎตายตัวอีกต่อไป และในขณะนั้น “บิ๊กปู” เข้าตา “บิ๊กลือ” สุดๆ บวกกับวันเดือนปีเกิด 20 ธันวาคม 2505 ซึ่งเข้าวงโคจร ดวงชะตาราศีธนู ที่กำลังรุ่งโรจน์ ตามหลักโหราศาสตร์จีน ตำแหน่ง ผบ.กร.จึงไม่ไปไหน

“กองทัพเรือ” เปลี่ยนมือจาก “บิ๊กลือ” มาสู่ยุค “บิ๊กอุ้ย” พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน เป็น ผบ.ทร. ในห้วง 1 ปีที่ดำรงตำแหน่ง ทำได้เพียงประคับประคองสถานการณ์ ไม่ให้ความขัดแย้งภายในกองทัพเรือที่แตกเป็นสองขั้วลุกลามไปมากกว่านี้ การปรับย้ายก็สนองความต้องการของทั้งสองฝ่าย

โดย “บิ๊กปู” ได้ขยับเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทร. ส่วน “บิ๊กจอร์จ”ต้องลุกจากเก้าอี้ ผบ.ทัพเรือภาค 3 เปิดทางให้รุ่นน้องได้เติบโต ก่อนจะถูกส่งออกนอกกองทัพเรือ เพราะไร้ตำแหน่งว่างรองรับ โดยไปกินอัตรา “พลเรือเอก” เป็น รอง เสธ.ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย

ในขณะเดียวกัน ก็รับ “บิ๊กเฒ่า” กลับมาเป็น ผบ.ทร. ปลุกความหวังของ “ลูกประดู่” ขั้วหนึ่งที่ต้องการให้ปรับเปลี่ยน “กองทัพเรือ” กลับไปก่อนหน้าที่“ บิ๊กลือ” จะเป็น ผบ.ทร. 

ดังนั้น เพียงไม่กี่เดือนจึงได้เห็นการรื้อต้นไผ่ ปรับภูมิทัศน์วังนันทอุทยาน พระราชวังเดิม เปลี่ยนป้ายข้อความ เรียกผู้ช่วยทูตทหารที่มีข้อครหากลับประเทศ จนมาถึงคิวการปรับย้ายกลางปี

ท่ามกลางเสียงเชียร์ แน่นอนว่าต้องมีแรงต้าน เพราะปฏิบัติการดังกล่าวไม่เพียงแต่ล้างบางสิ่งที่ “บิ๊กลือ” ทำไว้ แต่ยังตอกย้ำรอยร้าวของคนในกองทัพเรือ 

ส่วนปฏิกิริยา “บิ๊กปู” ยังคงวางเฉย แต่ลึกๆ ก็ไม่โอเคกับการสลับเก้าอี้ไปนั่งเป็นรองเสธทหาร แม้ระดับยศจะเท่ากัน แต่ลดชั้นในตำแหน่งหน้าที่

ครั้นจะร้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม ก็คงต้องฟ้องกราวรูด เพราะ “บิ๊กเฒ่า”แค่ชงเรื่อง แต่คณะกรรมการปรับย้ายนายทหารประจำปี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานไฟเขียว ร่วมกับ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทร. พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.และ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.

ทั้งนี้ การโยกสลับหน่วย สลับตำแหน่งในช่วงการปรับย้ายกลางปี เคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุค พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร. ด้วยการส่ง พล.ร.อ.ธนะรัตน์ อุบล เสนาธิการทหาร ไปเป็นรองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ด้วยเหตุผลทำงานไม่ตอบสนองนโยบาย และดึง พล.ร.อ. ณรงค์พล ณ บางช้าง รองเสนาธิการทหาร มาเป็นผู้ช่วย ผบ.ทร.

ส่วนเหตุผลของ “บิ๊กเฒ่า” ก็เพื่อความเหมาะสม และคืนความชอบธรรมให้ “บิ๊กจอร์จ”

ดังนั้น สถานการณ์ต่อจากนี้ ก็พอทำนายได้ว่า “การปรับย้าย”ที่เปลี่ยนไปตามวิธีคิดของ ผบ.ทร.ในแต่ละยุค จะสร้างรอยร้าวให้ “กองทัพเรือ”แบบไม่รู้จบ