เบื้องลึก! “ปารีณา” ยื่นทรัพย์สินเท็จ “พระเครื่อง” ผลุบ ๆ โผล่ ๆ-เงินกู้ลม 7 ล.

เป็นนักการเมืองรายล่าสุดที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด กรณีจงใจปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ พร้อมกับส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาต่อไป

“เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปัจจุบันถูกศาลฎีกาให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เนื่องจากมีคำสั่งประทับรับฟ้อง กรณีกล่าวหาว่าฝ่าฝืนหรือผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในคดีครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และที่ดิน ส.ป.ก.

สำหรับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า 

1. กรณีการเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ 7.7 ล้านบาท ซึ่งจากการไต่สวนเจ้าของเช็คเงินกู้ให้การปฏิเสธ เป็นการปล่อยกู้ตีเช็คเปล่าค้ำประกัน ไม่มีการกู้กันจริง แต่คาคว่านำเงินไปใช้เพื่อลงเลือกตั้ง โดยบุคคลที่เป็นลูกหนี้ตามที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน คือ นายประทีป มีพรบูชา นายกเทศมนตรีตำบลคลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 

2. พระสมเด็จบางขุนพรหม 2.5 ล้านบาท พระนางพญา ราคา 3.5 ล้านบาท ที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน มีการนำพระอื่นมาแสดงแทน

ส่วนกรณีการแจ้งครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 รวม 58 แปลง ที่ก่อนหน้านี้ น.ส.ปารีณา ยืนยันว่า รายการที่ดิน ภ.บ.ท.5 ที่ครอบครองอยู่จริงมี 29 แปลง ไม่ใช่ 58 แปลง แต่ที่แจ้งไปด้วยตัวเลขดังกล่าว เนื่องจากฝ่ายบัญชีคลาดเคลื่อนในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ที่ประชุมเห็นว่าไม่เป็นการจงใจยื่นบัญชีเท็จ

อ่านข่าว: "ปารีณา" ไม่รอด! ป.ป.ช. ฟันยื่นทรัพย์สินเท็จ ปมพระเครื่อง - กู้ลม 7.7 ล้านบาท

เงื่อนปมสำคัญ 2 ประเด็นที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนั้น มีความเป็นมาอย่างไร?

กรุงเทพธุรกิจ สรุปข้อเท็จจริงให้ทราบ ดังนี้

• กรณีเจ้าหนี้เงินกู้ลม 7.7 ล้านบาท

ประเด็นนี้ถูกนายทศพล เพ็งส้ม ทนายความประจำพรรค พปชร. แถลงข่าวร่วมกับ น.ส.ปารีณา เองที่รัฐสภา ภายหลังถูก ป.ป.ช. กล่าวหาว่าจงใจปกปิดทรัพย์สิน โดยเมื่อตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.ปารีณา ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562 พบว่า แจ้งรายการเงินให้กู้ยืมรวม 10 ราย รวมวงเงิน 11,101,141 บาท

โดยในรายที่ให้กู้ยืมเงิน 7.7 ล้านบาท คือ นายประทีป มีพรบูชา ระบุอาชีพนายกเทศบาล ระบุว่าให้กู้ยืม 7,700,000 บาท ลงวันที่ 1 ต.ค. 2561

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายประทีป มีพรบูชา เป็นนายกเทศมนตรีตำบลคลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

อย่างไรก็ดี น.ส.ปารีณา เคยชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า นายประทีป กู้เงินไป 7.7 ล้านบาทจริง โดยมีเอกสารสัญญาเงินกู้ เอกสารการโอนลอยบ้านและที่ดิน เอกสารเช็คเพื่อชำระเงิน และเอกสารการแจ้งความตาม พ.ร.บ.เช็คฯ เพราะเช็คเด้ง โดยหลักฐานเหล่านี้เคยมอบให้แก่ ป.ป.ช. ไปแล้ว

• “พระสมเด็จฯ” ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ในบัญชีทรัพย์สิน

ส่วนประเด็น “พระสมเด็จบางขุนพรหม” มูลค่า 2.5 ล้านบาท และ “พระนางพญา” มูลค่า 3.5 ล้านบาท
พระสมเด็จบางขุนพรหม 2.5 ล้านบาท พระสมเด็จนางพญา ราคา 3.5 ล้านบาทนั้น จากการย้อนตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.ปารีณา ตั้งแต่ปี 2551 สมัยเป็น ส.ส.ราชบุรี พรรคเพื่อไทย ขณะนั้นแจ้งว่า สมรสกับนายอุปกิต ปาจรียางกูร นักธุรกิจชื่อดัง (ปัจจุบันหย่ากันแล้ว และนายอุปกิต เป็น ส.ว.)

น.ส.ปารีณา มิได้แจ้งว่าครอบครองพระเครื่ององค์ใด แต่แจ้งว่านายอุปกิต สามี ครอบครองพระเครื่อง 17 รายการ รวมมูลค่า 36,550,000 บาท โดยในส่วนพระสมเด็จบางขุนพรหม มี 2 รายการ ได้แก่ สมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่ 1 องค์ มูลค่า 1.5 ล้านบาท และสมเด็จบางขุนพรหม ฐานคู่ 1 องค์ มูลค่า 1 ล้านบาท

(ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวอิศรา)

ต่อมากรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ราชบุรี พรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2556 น.ส.ปารีณา ยังแจ้งว่าสมรสกับนายอุปกิตอยู่ โดยเจ้าตัวมิได้มีพระเครื่อง ขณะที่นายอุปกิตมีพระเครื่อง 11 รายการ รวมมูลค่ากว่า 37.7 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย 1 องค์ มูลค่า 2.5 ล้านบาท และสมเด็จนางพญาพิมพ์อกนูนใหญ่ 1 องค์ มูลค่า 3.5 ล้านบาท

หลังจากนั้นกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เมื่อปี 2562 น.ส.ปารีณา แจ้งสถานะว่าหย่ากับนายอุปกิตแล้ว โดย น.ส.ปารีณา แจ้งถือครองพระเครื่อง 3 รายการ ได้แก่ สมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์เส้นด้าย 1 องค์ มูลค่า 2.5 ล้านบาท สมเด็จนางพญาพิมพ์ใหญ่อกนูนใหญ่ 1 องค์ มูลค่า 3.5 ล้านบาท

(ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวอิศรา)

น่าสังเกตว่า พระเครื่อง 2 องค์ของ น.ส.ปารีณา ที่แจ้งตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562 คล้ายกับพระเครื่องของ “อดีตสามี” นายอุปกิต ที่หย่ากันไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งรุ่นของพระ และมูลค่า

ทั้งหมดคือ “เบื้องลึก” ในการแจ้งถือครองทรัพย์สินของ “ปารีณา” ก่อนถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดปมจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ

กลายเป็นอีกหนึ่งนักการเมืองที่กำลังเดินขึ้นเขียงในศาลฎีกาฯอยู่ตอนนี้