“ปริญญ์” อ้อนคนกรุงเปิดใจให้ “เอ้ สุชัชวีร์-ส.ก. 50 เขต” ยันผลงานประจักษ์

 ที่พรรคประชาธิปัตย์นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่ากทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) เปิดเผยว่า ก่อนเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีบางคนบอกว่าเป็นพรรคที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นพรรคที่ต้องมีประสบการณ์เชี่ยวชาญ แต่เป็นที่ทราบดีว่า ประชาธิปัตย์ในยุคนี้ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ ซึ่งวันนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่แค่คำพูด แต่ได้มอบภารกิจสำคัญให้กับพวกเราทุกคน และเป็นภารกิจที่ทำคนเดียวไม่ได้ และวันนี้พรรคเปลี่ยนไปแล้วในหลายด้าน มีคนรุ่นใหม่หลายคนเข้ามาเดินร่วมอุดมการณ์ มาร่วมทำงานด้วยกัน และคนรุ่นใหม่เหล่านี้ไม่ใช่อยู่ที่วัยวุฒิหรือคุณวุฒิ แต่อยู่ที่หัวใจของพี่ ๆ เพื่อนๆ ทุกคน 

จากการที่ตนร่วมลงพื้นที่ในหลายเขตร่วมกับผู้สมัคร ส.ก. อาทิ เขตบางกะปิ เขตราชเทวี บึงกุ่ม คลองเตย ได้เห็นพลังที่ทุ่มเทการทำงานอย่างหนักของตัวผู้สมัคร นอกจากนี้จากการที่ตนเป็นรองหัวหน้าพรรค ด้านเศรษฐกิจมา 3 ปี ได้ร่วมงานกับผู้สมัคร ส.ก. เขตดุสิต เขตสะพานสูง ก็ได้เห็นความตั้งใจจริงของผู้สมัคร ส.ก.ทุกท่าน ที่ไม่ใช่เพราะจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม แต่ทุกท่านทำงานด้วยใจ อยากรับใช้พี่น้องแต่ละเขตที่ลงสมัคร และพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด การมี ศปฉ. ปชป. นั้น ก็ล้วนเป็นการทำงานด้วยใจเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเหมือนเป็นญาติมิตร

“สิ่งที่ทำให้ผมไม่ลังเลใจ และทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น แม้จะมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่เมื่อผมได้เดินกับ พี่ๆเพื่อนๆ ผู้สมัคร ส.ก. หลายเขต แม้จะยังไม่ครบ 50 เขต เท่าพี่เอ้ สุชัชวีร์ พี่ชายสุดเลิฟของผม จึงได้เห็นความตั้งใจของ ส.ก. แต่ละเขตมีพลังเต็มเปี่ยม และการที่เรารู้ว่า กรุงเทพฯ มันต้องเปลี่ยน ผมว่ากรุงเทพฯ ยังไม่เปลี่ยน และที่ผมรู้จัก พี่เอ้ มาร่วม 10 ปี เป็นเพื่อนกันมาตลอด เมื่อได้เห็นความตั้งใจพี่เอ้ เห็นวิสัยทัศน์พี่เอ้ ว่าคนที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ได้คือ พี่เอ้ สุชัชวีร์” ปริญญ์ กล่าว 

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า ผลงานของ นายสุชัชวีร์ นั้นมีหลายโครงการที่สามารถเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทำได้ และตนก็เห็นเขาทำสำเร็จมาแล้วหลายโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยเห็นผู้สมัครกรุงเทพฯ พูดเก่งหลายคน นำเสนอเก่งหลายคน แต่ก็ไม่เห็นผู้ว่าฯ หรือว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. คนไหน มีผลงานที่ประจักษ์เป็นรูปธรรม ที่พลิกองค์กรที่เคยขาดทุน องค์กรที่ภาพลักษณ์ไม่ดี ให้กลายเป็นองค์กรที่คนอยากเข้าไปอยู่ อยากเข้าไปเรียนได้ อย่าง “พี่เอ้ สุชัชวีร์”

“ขอให้คนกรุงเทพฯ เปิดใจดูนโยบาย พี่เอ้ เปิดใจดูวิสัยทัศน์ เปิดใจดูงานและผลงานของ ส.ก.ทุกท่าน ที่ผมรู้ดีว่า เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราทำงานมาตลอด 3-4 ปี และมีหลายท่านทำงานมาตลอดชีวิตเพื่อพี่น้องในเขตของท่าน และทำโดยที่ไม่ได้หวังผลอะไร เรารอวันนี้มานานมาก 3 มีนาคม 2556 รวมเวลา 9 ปีกว่าแล้วที่เรามีการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครครั้งสุดท้าย  22 พฤษภาคม ผมเชื่อว่าจะเป็นวันที่เราจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นได้ และผมเชื่อว่าคนที่ทำได้คือ พี่เอ้ สุชัชวีร์” ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้ง กทม. และ สก. ประชาธิปัตย์กล่าว