"กลาโหม" เปิดค่ายทหารให้ผู้สมัครชิงเก้าอี้ "ผู้ว่าฯ กทม."หาเสียง

25 มี.ค.2565 ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 3/2565 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า  สำหรับการสนับสนุนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ในเดือนพ.ค.นี้ ที่จะเกิดขึ้นกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพยังคงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดย1.สนับสนุนจำนวนเจ้าหน้าที่และจำนวนคน  2.สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในเรื่องสถานที่ 3.สนับสนุนในเรื่องยานพาหนะ และ4.สนับสนุนในเรื่องการประชาสัมพันธ์

 ดังนั้นการขอเข้ามาหาเสียงในหน่วยทหารสามารถทำได้ เพราะเราเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทุกพรรคการเมืองและผู้สมัครอิสระ แต่การเข้ามาอาจจะมีข้อจำกัดบ้างเล็กน้อย เช่น เรื่องเวลา จึงขอให้การเข้ามาหาเสียงในหน่วยทหารจะต้องทำเรื่องขออนุญาตก่อน

จากนั้นทางหน่วยจะทหารจะแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)และกรุงเทพฯ เพื่อประกาศให้ผู้สมัครในแต่ละพรรคและผู้สมัครในนามอิสระเข้ามาหาเสียงในวันและเวลาเดียวกัน เพื่อที่ทางหน่วยทหารจะได้อำนวยความสะดวก หากเข้ามาไม่พร้อมกันคนที่จะเข้ามารับฟังว่าจะไม่เป็นกลุ่มก้อนด้วย

เมื่อถามว่ามีการเตรียมพร้อมสนับสนุนยานพาหนะที่จะนำกำลังพลไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพื่อให้เป็นระบบและระเบียบนั้น พ.อ.วันชนะ กล่าวว่า ตรงนี้อาจจะมีข้อจำกัด เพราะอาจจะเข้าข่ายการขนคน จึงจะเปิดกว้างให้กำลังพลไปใช้สิทธิ์ และตามระเบียบก็ไม่มีเรื่องนี้อยู่แล้ว  ซึ่งการที่กองทัพจะสนับสนุนคือการสนับสนุนขนบัตรเลือกตั้งไปส่งหรือการสนับสนุนยานพาหนะในการอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ

เมื่อถามย้ำว่ามีการเน้นย้ำกำลังพลให้วางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างไร เพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้สมัครจำนวนหลายคน พ.อ.วันชนะ กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพได้เน้นย้ำในเรื่องนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงในการเลือกตั้งหรือนอกเหนือจากการเลือกตั้ง เพราะเราเปิดกว้างให้ทุกคนมีสิทธิในการตัดสินใจของตัวเองและเป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด 

เมื่อถามว่าหน่วยเลือกตั้งที่อยู่ติดกับค่ายทหารเจ้าหน้าที่ทหารจะเข้าไปช่วยมีส่วนสนับสนุนหรือไม่นั้น พ.อ.วันชนะ กล่าวว่า เป็นการประสานงานของกกต.เพื่อขอเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปอำนวยความสะดวก เช่น การรักษาความปลอดภัยการอำนวยความสะดวกในเรื่องของยานพาหนะ หรือการจัดการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนท้องที่  ส่วนจะมีการคาดโทษหนักอย่างไรหากมีหลักฐานพบว่ากำลังพลหรือนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกตั้งนั้น พ.อ.วันชนะ กล่าวว่า การดำเนินการในส่วนบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปตามความยุติธรรม ก็มีอัตราโทษตามกฏหมายอยู่แล้วถ้าพบว่ามีความผิดจริง นอกเหนือจากนี้หากพบว่าผิดจากระเบียบของกองทัพก็จะมีโทษทางวินัยของกองทัพตามไปด้วย ทั้งศาลทหารและศาลปกติ  ซึ่งในส่วนของข้าราชการทหารยืนยันว่าจะได้รับโทษมากกว่าพลเรือนถ้าทำผิดกฏหมายอย่างแน่นอน ในกรณีที่กฎหมายบ้านเมืองไม่สามารถเอาผิดได้ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ต้องดู เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับกำลังพลด้วย

“ขอยืนยันอีกครั้งว่ากองทัพวางตัวเป็นกลางและพร้อมที่จะสนับสนุนการเลือกตั้งในทุกสนามเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยและยินดีที่จะสนับสนุนทุกภาคส่วนในการจัดการเลือกตั้งให้มีความบริสุทธิ์และยุติธรรมมากที่สุด” พ.อ.วันชนะ กล่าว.