“ศรีสุวรรณ” ลุยต่อจ่อยื่น “กรมป่าไม้” สอบ ส.ส.ถือครอง ภ.บ.ท.5 รุกป่าหรือไม่
“ศรีสุวรรณ” ลุยต่อ! เตรียมยื่น “กรมป่าไม้” ตรวจสอบ ส.ส.แจ้งถือครองเอกสารสิทธิ์ ภ.บ.ท.5 เข้าข่ายบุกรุกป่าหรือไม่ ชี้นักการเมืองไม่ถือว่ามีฐานะยากจน-เกษตรกร ขัดแย้งกับกฎหมายในการครอบครอง
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2565 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีเตรียมนำข้อมูลนักการเมืองแจ้งถือครองเอกสารสิทธิ์ประเภท ภ.บ.ท.5 ไปร้องเรียนต่อกรมป่าไม้ เพื่อให้ดำเนินการตวจสอบ ว่า ที่ดินประเภท ภ.บ.ท.5 เป็นเพียงเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภาษีดอกหญ้า) ท้องถิ่นจะจัดเก็บ ไม่เกี่ยวกับว่าใครเป็นเจ้าของที่ดิน ไม่ใช่เอกสารแสดงสิทธิครอบครองที่ดิน เพราะเจ้าของที่ดินก็ยังคงเป็นของทางราชการอยู่ เพียงแต่อาจจะให้มีการใช้ประโยชน์ชั่วคราว แต่ไม่ถือว่าผู้ที่ใช้ประโยชน์นั้นเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งกรมการปกครองเมื่อปี 2551 ได้สั่งให้ยกเลิกการเก็บภาษีดังกล่าวแล้ว เพราะปัญหาคือ ส่วนมากเป็นที่ป่าสงวน การแจ้งเสียภาษีก็แจ้งกันเองโดยไม่รังวัด บางรายครอบครองเป็นร้อยเป็นพันไร่ บุกรุกป่าทั้งนั้น ซึ่งที่ดินประเภทดังกล่าว ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่อย่างใด โดยมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2519 กำหนดบรรทัดฐานไว้ว่า “ผู้ที่มีชื่อในใบเสร็จเสียเงินบำรุงท้องที่เป็นเพียงหลักฐานแสดงว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียภาษีเท่านั้น ไม่ใช่หลักฐานแสดงว่าผู้นั้นมีสิทธิครอบครอง”
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การที่เหล่า ส.ส. หลายคนได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปรากฏโดยชัดแจ้งว่ามีที่ดิน ภ.บ.ท.5 อยู่ด้วย จึงไม่ถือว่ามีฐานะยากจนหรือเป็นเกษตรกร หรือผู้ยากไร้ ซึ่งขัดหรือแย้งต่อ พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นเกษตรกร พ.ศ.2535 โดยตรง
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะนำข้อมูลไปร้องเรียนอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อขอให้ตรวจสอบที่ดิน ภ.บ.ท.5 ของเหล่า ส.ส.ทั้งหลายว่าอยู่ในที่ดินของรัฐ หรือในพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติ หรือไม่ อย่างไร ในวันศุกร์ที่ 22 เม.ย. 2565 เวลา 10.00 น. ที่ กรมป่าไม้ ถ.พหลโยธิน จตุจักร กทม.