"ฟลุ๊ค พชร" แช่ง พวกอ้างฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าคิดทำลาย "พท." ขอให้สอบตกกันหมด
"ฟลุ๊ค เดอะ สตาร์" เผย เพิ่งรู้ "ไทยสร้างไทย" โหน "โทนี่" หลัง "ศิธา-ฟิล์ม" ยอมรับท้า สาบาน คนให้ร้าย ทำลาย "พท." ถ้าจริง ขอให้สอบตกกันหมด ดักคอ อย่าอ้าง ฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งที่ดอดขอพบ "บิ๊กทหาร"
นายพชร ธรรมมล หรือ ฟลุ๊ค เดอะสตาร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ตนได้ออกมาแสดงความเห็นตามที่ “พี่โทนี่” หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดในคลับเฮ้าส์ เรื่องคนที่ออกนอกพรรคไปแล้วแต่ยังใส่ร้ายพรรค เที่ยวไปบอกว่าพรรคจะถูกยุบ แถมยังไปโยงเบื้องสูง พอไม่สำเร็จก็มาอ้างว่าเป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก และทนไม่ได้จึงต้องออกมาตำหนิ ซึ่งหากได้ติดตามเรื่องที่ตนพูด ตนก็เป็นคนพูดตรงๆ ในทุกเรื่องมาตลอด โดยเฉพาะกับเผด็จการ ไม่มีกะล่อนพลิกลิ้น พูดหน้าอย่างหลังอย่างเหมือนบางคนจนอาจถูกเข้าใจว่ามีลิ้นหลายแฉกได้ ซึ่งตนไม่ได้พูดถึงพรรคไหนแต่นายศิธา ทิวารี และ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ กลับออกมายอมรับเองว่าน่าจะเป็น พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งตนก็แปลกใจว่าในเมื่อนายศิธา ออกจากพรรคเพื่อไทยไปนานแล้วถึงขนาดไปสมัครผู้ว่า กทม. ของพรรคอื่นแล้ว ด้วยมารยาทก็น่าจะต้องออกจากไลน์กลุ่มของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ การที่พรรคเพื่อไทยจะสื่อสารกันเอง คงไม่เกี่ยวกับคนนอก การที่นายศิธา ไม่ออกจากไลน์กลุ่ม คอยรับข้อมูลของพรรคอื่น แถมยังไปคอมเม้นท์ในไลน์กลุ่มของพรรคอื่น ถือเป็นการเสียมารยาทอย่างร้ายแรงใช่หรือไม่ มารยาทแค่นี้ยังไม่รู้แล้วจะสมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้อย่างไร แทนที่จะไปตำหนินายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ควรจะต้องพิจารณามารยาทของตัวเองก่อนไหม
นายพชร กล่าวว่า อยากให้นายศิธา ไปศึกษาคำพูดของพี่โทนี่ที่พูดหลายครั้งแล้วถึงพฤติกรรมที่เลวร้ายของใครบางคนที่ให้ร้ายพรรค คิดบ่อนทำลายพรรค หวังตกปลาในบ่อพรรค ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ต้องเดือดร้อน และขอให้กล้าออกมาสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าไม่ได้ทำจริง ซึ่งหากผิดคำสาบานขอให้พรรคล้มเหลว ผู้สมัครสอบตกกันหมด แต่ถ้าไม่ได้ทำก็ขอให้ประสบความสำเร็จตามความสามารถ ซึ่งอีกไม่กี่วันก็คงได้รู้ผล
นอกจากนี้การจะอ้างเป็นฝั่งประชาธิปไตยก็ต้องมีจุดยืนที่แท้จริง ไม่ใช่ปากบอกประชาธิปไตยแต่กลับไปนั่งเฝ้าขอพบบิ๊กทหารตามร้านอาหารที่มีคนพบเห็นหลายครั้ง ดังนั้น อย่ามาโหนแม้กระทั่งเรื่องประชาธิปไตยเลย ส่วนฟิล์ม รัฐภูมิ ตนไม่เคยให้ค่า ต้องไปถามฟิล์มว่าไปทำบุญให้เสี่ยอู๊ดผู้มีพระคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ หรือลืมเสี่ยอู๊ดไปแล้ว
นายพชร กล่าวว่า ถ้าคนไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้หน้าไหว้หลังหลอก ปากอย่างใจอย่าง ก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนและไม่เห็นจะต้องแก้ตัว ไม่ได้ทำจริงก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อน เรื่องก็จะเงียบหายไปเอง และใครกันแน่ที่ไม่กล้าออกมาชี้แจง แทนที่จะแก้ตัวด้วยตัวเอง กลับส่งลิ่วล้อออกมาแก้ตัวให้ ซึ่งต้องถามประชาชนว่ามีการแอบอ้างเป็นสาขาพรรคเพื่อไทยจริงหรือไม่ และในวงการไฮโซมีคนไปพูดแย่ๆ แบบนั้นจริงหรือไม่ ความจริงย่อมหนีความจริงไม่พ้น อย่าเคยชินกับการหลอกเขาไปเรื่อยเพราะคนจะจับได้ในที่สุด
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์