'วราวุธ' สั่งล่าตัวนักท่องเที่ยวจับปลานกแก้วในเขตอุทยานแห่งชาติ ย้ำถ้าจับได้ต้องเนรเทศสถานเดียว
'วราวุธ' สั่งล่าตัวนักท่องเที่ยวจับปลานกแก้วในเขตอุทยานแห่งชาติ ย้ำถ้าจับได้ต้องเนรเทศสถานเดียว
จากประเด็นนักท่องเที่ยวต่างชาติโพสต์คลิปลงติ๊กต๊อกจับปลานกแก้ว ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชตรวจสอบประเด็นนี้โดยด่วน เนื่องจากพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวดังกล่าวจับนั้น อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งมีความผิดทางกฎหมาย และการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศท้องทะเลของไทยเป็นอย่างมาก
“ตามหาบุคคลคนนี้ให้เจอโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะไม่ทำความเสียหายให้กับทรัพยากรของประเทศไทยไปมากกว่านี้ ถ้าจับได้ต้องเนรเทศสถานเดียว ”
ด้านนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่าขณะนี้จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พอทราบแล้วว่าเรือลำดังกล่าวเป็นของใคร ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะพีพี แล้ว เพื่อให้ติดตามตัวเจ้าของเรือ”เอวาริน” และสืบสวนหานักท่องเที่ยวที่ถือปลานกแก้วมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะการจับสัตว์น้ำในเขตอุทยานฯ มีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ
นอกจากนี้ปลานกแก้ว ถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในแนวปะการัง และนับวันจะลดปริมาณลงแล้วด้วย หากใครทราบเบาะแส ให้แจ้งมาที่ อช.หาดนพรัตน์ธาราฯ ได้ทันที.
ทั้งนี้สำหรับความผิดตามกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีประกาศฉบับลงวันที่ 11 ส.ค. 2558 ห้ามกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวน เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือทำอันตรายกับสัตว์ต่างๆ ทุกชนิดในอุทยานแห่งชาติ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดและต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504
มาตรา 16(3) นำสัตว์ออกไปหรือทำอันตรายด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ ประกอบกับมาตรา 21 ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 16 ออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ หรือ งดเว้นการกระทำใดๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 24 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 16(3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ