Full Face Lift Surgery

Face Lift หรือ Rhytidectomy คือการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า โดยสามารถทำยกกระชับใบหน้าได้ทั้งส่วนบน
ใบหน้านับเป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่เห็นชัดที่สุด เพราะใบหน้าเป็นที่รวมของการแสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึกก็จะเห็นได้โดยชัดเจนจากใบหน้า สภาพของใบหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นการเกิดจากการการสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวหนังและคอลลาเจนใต้ผิวหนัง, การห้อยและหย่อนตามแรงโน้มถ่วงของโลก, ริ้วรอยร่องลึกที่เกิดบนใบหน้า รวมทั้งการสูญเสียไขมันบริเวณส่วนกลางของใบหน้า สัญญาณเหล่านี้เราสามารถมองเห็นได้เองและผู้คนอื่นๆที่อยู่รอบข้างก็มองเห็นได้เวลาที่มองมาที่ใบหน้าของเรา ปัญหาความหย่อนคล้อยที่เห็นชัดจะทำให้เราดูแก่, เหนื่อย และดูเศร้า ไม่แจ่มใส เต่งตึง กระฉับกระเฉงเหมือนสมัยยังเด็กอยู่ สาเหตุมีได้มากมายที่นอกเหนือไปจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นแล้วยังรวมถึงกรรมพันธุ์ แรงโน้มถ่วงของโลก สภาพแวดล้อม และความเครียดซึ่งนับเป็นตัวการสำคัญ
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยี่มากมายที่สามารถช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหน้ามีมากมายที่สามารถช่วยเก็บความหย่อนคล้อยได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าความหย่อนคล้อยนั้นมีมากเกินส่วนใหญ่แพทย์ผิวหนังจะแนะนำให้ผ่าตัดดีงหน้า ดังนั้นการผ่าตัดดึงหน้าจึงนับเป็นทางเลือกสุดท้ายเพราะสามารถเก็บปัญหาหย่อนคล้อยได้มากที่สุดเป็นหนึ่งในการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ และทำร่วมกับวิธีการอื่นๆ เพื่อให้ใบหน้าดูดี และแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้าได้ในคราวเดียวกัน เช่น การทำตาบน, ตาล่าง, ยกคิ้ว รวมทั้งการฉีดไขมันบนใบหน้าด้วยพร้อมๆกัน
ถ้าจะถามว่าการดึงหน้า Face Lift คืออะไร
Face Lift หรือ Rhytidectomy คือการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า โดยสามารถทำยกกระชับใบหน้าได้ทั้งส่วนบน คือการดึงหางคิ้วและหน้าผากขึ้น ส่วนกลางคือ การแก้ไขการหย่อนตัวของแก้ม, ร่องน้ำตา และร่องแก้ม ส่วนล่างคือ การแก้ไขบริเวณคางที่ห้อยหย่อน ทั้งด้านข้างและตรงกลาง ที่เราเรียกว่า double chin การดึงหน้า สามารถเลือกได้ว่าจะจัดการแก้ไขทั้ง 3 ส่วน หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ขึ้นกับลักษณะปัญหาใบหน้าของคนนั้นๆ การผ่าตัดดึงหน้าสามารถทำร่วมกับวิธีการอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลออกมาดีที่สุด เช่น การผ่าตัดตกแต่งใบหน้า การผ่าตัดถุงใต้ตา, การฉีดไขมันและอื่นๆ
เราควรเริ่มต้นอย่างไร?
การรับคำปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางเป็นขั้นตอนแรกในการรับข้อมูลเกี่ยวกับศัลยกรรมดึงหน้าว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างไร แพทย์จะพิจารณาปัญหาของคนไข้ว่ามีความหย่อนคล้อยที่ส่วนใดบ้างของใบหน้า ส่วนบน, ส่วนกลาง, ส่วนล่าง หรือทั้ง 3 ส่วน โดยคนไข้จะได้รับความรู้ และไม่รู้สึกโดนกดดันในขณะรับคำปรึกษา ซึ่งจะครอบคลุมเรื่องต่างๆ อาทิเช่น การซักถามถึงเป้าหมายของคนไข้ และการประเมินการรักษา ทางเลือกต่างๆ ในการศัลยกรรมดึงหน้า ผลการรักษาที่คนไข้ควรจะได้รับจากศัลยกรรมดึงหน้า รวมไปถึงความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนหลังศัลยกรรม คอร์สการรักษาซึ่งถูกแนะนำโดยศัลยแพทย์ตกแต่ง พร้อมกับการวิเคราะห์สภาพหน้าด้วยเครื่องVectra 3D เป็นเครื่องมือที่จะช่วยคุณปรับปรุงรูปโฉมใหม่ให้เห็นล่วงหน้าก่อนการทำศัลยกรรมตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูก, ดึงหน้า, เสริมหน้าอก, เสริมคาง, ตา 2 ชั้น และอื่นๆ อีกมากมาย คุณสามารถขอคำปรึกษาในรายละเอียดกับศัลยแพทย์ตกแต่งถึงความต้องการของคุณ... ซึ่งจะเป็นการง่ายที่จะสื่อสารให้เข้าใจถึงรูปลักษณ์ในนั้นตรงประเด็นกับศัลยแพทย์ตกแต่งผู้ทำการรักษา คุณจึงมั่นใจได้ถึงรูปลักษณ์ใหม่ที่จะได้เปลี่ยนแปลงไปในอนาคตก่อนการลงมือทำศัลยกรรม
สิ่งที่ควรประเมินก่อนการผ่าตัดเห็นจะเป็นเรื่องสุขภาพโดยรวมและบุคลิกภาพภายนอกเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อผลการรักษาด้วยการผ่าตัดดึงหน้า ดังนั้นการประเมินการรักษาจึงควรทำอย่างระมัดระวังโดยศัลยแพทย์ตกแต่ง ทังนี้ความสำเร็จของการรักษา ความปลอดภัย และความพึงพอใจโดยรวมต้องขึ้นกับการเปิดเผยข้อมูลที่คนไข้ให้ด้วย การบอกถึงความคาดหวังของคนไข้อย่างเปิดเผย การเปิดเผยประวัติสุขภาพ การรักษาโรคในปัจจุบัน การรับประทานวิตามิน อาหารเสริมสมุนไพร การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ตกแต่งอย่างเคร่งครัด
ศัลยกรรมดึงหน้านั้น เหมือนศัลยกรรมตกแต่งอื่นๆ ศัลยกรรมดึงหน้าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะบุคคล ศัลยแพทย์ตกแต่งจะเป็นคนประเมินกายวิภาคของคนไข้ ปัญหาที่ควรจะถูกแก้ไข อะไรเป็นสาเหตุของปัญหา สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้รับ ศัลยกรรมดึงหน้าสามารถปรับโครงสร้างของใบหน้า และบริเวณใกล้เคียง
การทำศัลยกรรมดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่ได้ผลดีที่สุดที่จะแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ผลที่ได้จะดีกว่าการทำเลเซอร์ต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย การทำเลเซอร์เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยจะได้ผล เพื่อทำให้รูปหน้ากระชับ อยู่ตัว ไม่หย่อนแต่ไม่สามารถที่จะดึงได้มากเท่าการดึงหน้า การดึงหน้าจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะเก็บความหย่อนคล้อยได้มากที่สุด
อย่างที่กล่าวมาในข้างต้นต้องมีการประเมินจากแพทย์ว่าปัญหาหย่อนคล้อยของคนไข้ มีที่ส่วนใดของใบหน้าหรือทุกๆส่วน และจะทำการแก้ไขโดยวิธีการดึงหน้าเพียงอย่างเดียวหรือทำร่วมกับวิธีการอื่นๆเช่น การฉีด Botox, การฉีดไขมัน, ตกแต่งหนังตาและถุงใต้ตา หรือดูดไขมันใต้คาง เป็นต้น แผลผ่าตัดดึงหน้าจะเริ่มบริเวณผม ส่วนขมับลงมาด้านหน้าของใบหู และอ้อมไปด้านหลังหู จนถึงไรผมด้านหลัง
การเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัด ศัลยแพทย์ตกแต่งจะอธิบายถึงขั้นตอนในการผ่าตัดดึงหน้าอย่างละเอียด ก่อนการศัลยกรรม คุณจะได้รับทราบข้อควรปฏิบัติ ซึ่งได้แก่ข้อควรพิจารณาก่อนการทำศัลยกรรม การประเมิน ตรวจวินิจฉัย และการรับการรักษาวันที่จะทำการรับทราบข้อควรปฏิบัติและการรับการรักษา
ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับการวางยาสลบ การดูแลหลังการผ่าตัด และการตรวจติดตาม นอกจากนี้ คุณจะได้รับการร้องขอให้ลงนามยินยอมในแบบหนังสือยินยอมรับการรักษา เพื่อยืนยันว่าคุณได้รับทราบถึงกระบวนการรักษา สิ่งที่จะเกิดขึ้น และความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อน จากการอธิบายของศัลยแพทย์ตกแต่ง ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในศัลยกรรมดึงหน้า ได้แก่ การติดเชื้อ การมีเลือดคั่งใต้ผิวหนัง เส้นประสาทบริเวณใบหน้าชอกช้ำ การหายของแผลผ่าตัดไม่ดี นอกจากนี้ศัลยกรรมใดๆ ล้วนมีความเสี่ยงในการวางยาสลบ ความเสี่ยงทั้งหลายเหล่านี้จะถูกทำความเข้าใจก่อนที่คุณจะลงนามยินยอมในการรับการรักษา
ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งคือ คุณจะต้องซักถามข้อสงสัยทุกอย่างกับศัลยแพทย์ตกแต่งอย่างตรงไปตรงมา เป็นเรื่องปรกติที่อาจมีความกังวลใจ ตื่นเต้นกับผลที่คาดว่าจะได้รับ หรือความเครียดก่อนการผ่าตัด ซึ่งสามารถบอกความรู้สึกต่างๆ ดังกล่าวกับศัลยแพทย์ตกแต่งได้
การติดตามหลังการผ่าตัด ภายหลังจากการผ่าตัดเสร็จสมบูรณ์ ในบางกรณีจะมีการพันด้วยผ้าพันแผลบริเวณศีรษะและใบหน้า เพื่อลดอาการบวมช้ำ และจะมีท่อระบายเลือด เพื่อที่จะระบายเลือดที่ค้างอยู่ให้หมด การดูแลบริเวณแผลผ่าตัด และการระบายเลือดออก การให้ยารับประทาน เพื่อช่วยในเรื่องการหายของแผล และลดโอกาสการติดเชื้อ ข้อควรตระหนักในการดูแลแผลผ่าตัด หรือสุขภาพโดยรวม การนัดหมายเวลา เพื่อติดตามผลการรักษากับศัลยแพทย์ตกแต่ง ระยะเริ่มแรกจะมีอาการบวม ช้ำ และอาจรู้สึกอึดอัดบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งอาจมีการจ่ายยา เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว ศัลยแพทย์ตกแต่งอาจแนะนำให้คุณยกศีรษะขึ้นตลอดเวลาจนกระทั่งอาการบวมเบื้องต้นจะหาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นมากที่คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด การกลับมาทำกิจวัตรเบาๆ ได้ปกติสามารถกระทำได้เมื่อคุณพร้อม
ซึ่งมักจะเป็นระยะเวลา 2-3 วันหลังผ่าตัด การหายของแผลในช่วงแรกจะกินเวลาประมาณ 5-10 วัน ไหมที่แผลเย็บจะถูกตัดออกหลังจากนั้น คุณจะพร้อมกลับไปทำงานและทำกิจกรรมได้อย่างปรกติ เครื่องสำอางอาจช่วยกลบรอยช้ำหรือรอยแดงที่ยังคงอยู่ การหายของแผลจะดำเนินไปหลายสัปดาห์ อาการบวมจะยุบลงและแผลผ่าตัดจะดีขึ้น การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งจำเป็น ผลการรักษาเริ่มปรากฏชัดอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ และอาจใช้เวลาเป็นปีในการหายของรอยแผลผ่าตัด ขณะที่ศัลยกรรมดึงหน้าช่วยแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องค่อนข้างถาวร อย่างไรก็ตามอายุที่มากขึ้นตามธรรมชาติก็อาจส่งผลต่อการรักษาได้ การป้องกันแสงแดด เช่น ทาครีมกันแดดจะช่วยทำให้ผลการรักษาอยู่ได้นานขึ้น ผลของศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า จะช่วยให้รูปหน้าของคุณกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง และดูมีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉง www.dermaster-thailand.com Tel: 027144471 Line ID: dermasterthai