Thermage หรือ Ulthera ?

Thermage หรือ Ulthera ?

เทคนิคตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย การยกกระชับผิวโดยการใช้พลังงานที่ไม่ใช้เลเซอร์ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิว

เทคนิคการยกกระชับผิวหน้าขจัดปัญหาความหย่อนคล้อยในปัจจุบันมีตั้งแต่ การใช้เลเซอร์ คลื่นวิทยุ การร้อยไหม การผ่าตัดดึงหน้า จนถึงเทคโนโลยี่ที่เป็นที่รู้จักกันมากในชื่อ Thermage และ Ulthera ซึ่งดูเหมือนทั้งสองวิธีดูจะตอบโจทย์ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้เหมือนกัน จนมีคำถามที่พบบ่อยมากที่สุดก็คือ Thermage กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร เพราะทั้งสองวิธีคือการยกกระชับผิวโดยการใช้พลังงานที่ไม่ใช้เลเซอร์ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิว คำถามที่ตามมาก็คือ...เทคนิคไหนจะได้ผลดีกว่ากัน  ซึ่งแท้ที่จริงแล้วการจะเลือกวิธีใดนั้นก็ขึ้นกับปัญหาและความต้องการของคนไข้

นวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับมานานในเรื่องของการทำ Non-Invasive Face Lift  หรือที่เราได้ยินกันบ่อยๆว่าการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดคือ Thermage โดยอาศัยหลักการของ Radiofrequency ที่ส่งผ่านพลังงานคลื่นวิทยุชนิดพิเศษตรงสู่ผิวในระดับลึก ซึ่งพลังงานดังกล่าวจะส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวที่เคยหย่อนคล้อยเกิดการกระชับตัว ผลที่ได้ทำให้เราสังเกตได้ว่าคิ้วยกขึ้น ทำให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น พลังงานที่ว่ายังไปกระตุ้นเซลล์ชั้นผิวหนังที่เรียกว่า ไฟโบรบลาสต์ให้สร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ขึ้นอีกมากมาย ต่อเนื่องยาวนานไปอีก 6 เดือน ดังนั้นด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว จะส่งผลให้ผิวมีการยกกระชับขึ้น เห็นผลได้ทันทีหลังการรักษาและผลลัพธ์มากขึ้นไปเรื่อยๆจนสูงสุดที่ 6เดือน แม้จะไม่ต้องผ่าตัด แต่ความร้อนจากการทำ Thermage ก็ทำให้เจ็บได้พอสมควรทีเดียวดังนั้น Thermage

จึงพัฒนาระบบใหม่ล่าสุดขึ้นมาเรียกว่า Comfort Pulse Technology (CPT)  ซึ่งข้อดีเหนือกว่ารุ่นเก่า คือส่งผ่านพลังงานได้ลึกและกระจายพลังงานสม่ำเสมอมากขึ้น ทำให้ได้ผลการรักษาที่ดีขึ้น โดยระหว่างการยิง Thermage มีการพ่นไอเย็นเพิ่มมากขึ้น ( Cooling burst ) ทำให้คนไข้รู้สึกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ Vibration ที่ทำให้หน้าที่เบี่ยงเบนความรู้สึกสั่น ก็จะรู้สึกถึงเรื่องความเจ็บหรือร้อนน้อยลงนั่นเอง ด้วยข้อดีที่กล่าวมาทำให้ Thermage CPT มีประสิทธิภาพการรักษาที่ดีขึ้น พร้อมกับความพึงพอใจขณะทำทรีตเม้นท์เพิ่มขึ้นด้วย

ใบหน้าที่กระชับได้รูปนอกจากเกิดจากผิวที่อุดมไปด้วยสายใยคอลลาเจน อีลาสตินที่แข็งแรงและกระชับรวมถึงเนื้อเยื่อไขมันที่ให้วอลลุ่มกับผิวแล้ว ยังเกิดจากการสอดประสานของร่างแหเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน หรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า SMAS  (Superficial Muscular Apo neurotic System) ที่คอยพยุงโครงสร้างของคอลลาเจน อีลาสตินและเนื้อเยื่อไขมันให้คงรูปอีกที SMAS เป็นร่างแหของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ทางศัลแพทย์ใช้ดึงหน้าในการผ่าตัด Face Lift ซึ่ง SMAS เป็นโครงสร้างที่อยู่ลึกลงใต้ผิวหนังซึ่งในอดีตเป็นไปไมได้เลยที่จะได้รับการฟื้นฟูและกระชับเนื้อเยื่อ SMAS ไปพร้อมๆกันกับการฟื้นฟูผิวด้วย High Intensity Focus Ultrasound (HIFU) พลังงานคลื่นความถี่เสียงที่โฟกัสลงใต้ผิวอย่างแม่นยำ ตามระดับความลึกที่ผิวในส่วนต่างๆ ต้องการ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินคุณภาพผิวและความหย่อนคล้อยในส่วนต่างๆ ก่อนพลังงานจาก Focus Ultrasound ช่วยกระชับSMAS ที่โอบอุ้มคอลลาเจนและเนื้อเยื่อไขมันให้ตึงกระชับช่วยให้ใบหน้าได้รูปและแลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

 

Ulthera เป็นการใช้ High Intensity Focus Ultrasound (HIFU) ส่งพลังงานลงถึงชั้น SMAS ด้วย Pulse Mode ที่รวดเร็วถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที ซึ่งเร็วมากกว่าที่ระบบประสาทมนุษยจะรับรู้ถึงความเจ็บ จึงทำให้การรักษาด้วย Ulthera สบายและผ่อนคลายผิว ไปพร้อมกับการฟื้นฟูยกกระชับโดยไม่เจ็บเลยเหมาะกับการทำ Face Lift โดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยยกกระชับความหย่อนคล้อย ลดคางสองขึ้น ยกคิ้วให้ได้รูป ลดริ้วรอยรอบดวงตา และยังช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวได้อีกด้วย การกระตุ้นให้ชั้นผิวเกิดการฟื้นฟูและกระชับผิวใช้เวลาประมาณ 6-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลเต็มที่ และผู้รักษาสามารถเข้ารับการยกกระชับผิวซ้ำได้หลังการรักษาครั้งแรก 12 สัปดาห์ 

ทั้งนี่ควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำเลือกเครื่องมือได้ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพผิว พร้อมกับเลือกสถาบันที่ได้มาตรฐานเป็นที่รู้จักเพื่อหลีกเลี่ยงนำเครื่องมือปลอมมาหลอกให้เสียความรู้สึกwww.dermaster-thailand.com Tel: 027144471