Amazing Thai Taste ผ่านการบอกเล่าของ“ฐาปนีย์-ฐนิวรรณ”
มุ่งหวังให้ภาคอาหาร มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวบริโภคอาหารไทย ข้าวไทย และ ผลไม้ไทย
การสานพลังประชารัฐ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ “โครงการ Amazing Thai Taste” คือลงความร่วมมือสานพลังประชารัฐ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้ภาคอาหาร มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวบริโภคอาหารไทย ข้าวไทย และ ผลไม้ไทย ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินมาระยะหนึ่ง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง
เรามาฟังเรื่องราวจากทั้ง 2 คนที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้โครงการนี้เดินหน้า เราสนทนากับ 2 ท่านในงาน Food&Hotel ที่ททท.มาร่วมออกบูธ ด้วยหม้อต้มยำยักษ์
“เรามีอาหารไทย 6 อย่าง ได้แก่ ผัดไทย ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ส้มตำ มัสมั่น ต้มข่าไก่ และ ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ฯลฯ ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และสามารถส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้บริโภคมากขึ้น และสามารถทำรายได้เข้าไปสู่ชุมชนทุกภาคส่วนทั้งแหล่งที่มา วัตถุดิบ ไปจนถึงร้านอาหาร” ผอ.ฐาปนีย์ เกริ่นให้ฟังถึงโครงการนี้
นักท่องเที่ยวที่มาบ้านเรา นอกจากจะนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว ก็ยังนึกถึงอาหารไทย กลายเป็นอีกแมกเน็ตที่ดึงดูดความสนใจ เราจึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนส่งเสริมอาหารไทยในทุกช่องทางขณะเดียวกันก็ต่อยอดออกไปไม่เพียงแต่อาหารไทย 6 อย่าง แต่ยังคำนึงถึงการเข้าไปสู่อาหารพื้นถิ่น 77 จังหวัดต้องห้ามพลาดด้วย เพื่อนำอาหารไทยเป็นตัวชูโรงการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีโครงการสุขใจ
ชวนกินอาหารถิ่นต้องห้ามพลาด ซึ่งจะให้รางวัลและมอบมาตรฐานแก่ร้านอาหารไทยท้องถิ่นที่มีคุณภาพ มีคณะกรรมการจากสมาคมภัตตาคารไทย สมาคมเชฟ และททท.เข้าไปร่วมกันค้นหาร้านอาหารไทยที่โดดเด่นในแต่ละภาคที่ผ่านมา ททท.เคยทำภาพยนตร์โฆษณาโปรโมทอาหารไทยในชื่อ “ผัดไทย” มาแล้ว ขณะนี้กำลังมีการจัดทำอีกเรื่องเพื่อโปรโมทอาหารไทยในโครงการอะเมซิ่งไทย เทสท์ด้วย
อาหารไทยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Creative ด้านการท่องเที่ยว 5 อย่างหรือ 5 F คือ Food Fighting Fashion Film Festival ซึ่งอาหารถือเป็นสินค้าหนึ่งที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามา Fighting หรือการชกมวยไทยก็เป็นสิ่งที่มีกลุ่มชื่นชอบ ขณะที่แฟชั่นหรือผ้าไทย ก็สามารถดึงดูดสร้างรายได้เช่นกัน ส่วนฟิล์มคือภาพยนตร์ไทยต่างๆหรือการมาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย และเฟสติวัลคือกิจกรรมเทศกาลงานประเพณี ทั้งหมดนี้จะสร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น
ส่วนฐนิวรรณ กุลมงคล ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า สนับสนุนให้ร้านอาหารที่เป็นสมาชิกทั่วประเทศ เตรียมโปรโมท Amazing Thai Taste สนับสนุนอาหารไทย 6 อย่างให้เป็นที่รู้จักและพันธุ์ข้าวต่างๆ เช่น ข้าวพันธุ์สังข์หยด จ.พัทลุง ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ และกำลังดำเนินการทำเว็บไซต์ ที่จะเชื่อมโยงร้านอาหารไทยกับวัตถุดิบที่เป็นเกษตรอินทรีย์ โดยมีการจัดทำ 3 ภาษา ซึ่งในเบื้องต้น ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน โดยการขับเคลื่อนโครงการ Amazing Thai Taste คาดว่าจะสร้างมูลค่าการบริโภคอาหารไทย ข้าวไทยและผลไม้ไทย เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 หรือ 12,000 ล้านบาทในปี 2559
โครงการ Amazing Thai Taste มุ่งหวังให้ภาคการท่องเที่ยว มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวบริโภคอาหารไทย ข้าวไทยและผลไม้ไทยมากขึ้น เพื่อช่วยกระจายรายได้สู่ภาคเกษตรกรรมและชุมชน ตลอดจนสร้างแบรนด์ของอาหารไทย ข้าวไทย ผลไม้ไทย ให้เป็น Premium Product เพื่อเพิ่มมูลค่าและเป็นที่แพร่หลายยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวได้ที่ Blog/Fb Travelista นักเดินทาง