โอกาสสุดท้ายทำโรงแรมขนาดเล็กให้ถูกกฎหมาย

โอกาสสุดท้ายทำโรงแรมขนาดเล็กให้ถูกกฎหมาย

วันจันทร์ที่ 2 กันยายนเวลา 8:30 นถึง 18:00 นสถานที่มูลนิธิเซนต์คาเบรียลซอยทองหล่อ 25 รับจำนวนจำกัดเพียง 30 คน

กับเวทีเสวนาสุดฮอตดัดแปลงตึกเก่าเป็นโรงแรมให้ถูกกฎหมายตามมาตรา 44

จัดวันจันทร์ที่ 2 กันยายนเวลา 8:30 นถึง 18:00 น.

สถานที่มูลนิธิเซนต์คาเบรียลซอยทองหล่อ 25 รับจำนวนจำกัดเพียง 30 คนเข้าอบรมคนละ 3,500 รวมค่าหนังสือ เอกสารกฏหมายและอาหารเที่ยงสนใจติดต่อโทรและLINE 096-7496868 

รับสมัครถึงวันอาทิตย์ที่1กันยายนเวลาเที่ยงเท่านั้น บรรยายโดย วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ กูรูบูติคโฮเต็ลการทำธุรกิจโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ ย่อมมีปัจจัยแห่งความสำเร็จ และก็ย่อมมีปัจจัยแห่งความล้มเหลวควบคู่กัน และปัจจัยแห่งความล้มเหลวอันดับที่ 1 ก็คือการทำโรงแรมผิดกฎหมายไม่มีใบอนุญาต ซึ่งนี่คือประเด็นที่ สำคัญที่สุดของคนทำธุรกิจ เพราะโทษจากการทำโรงแรมเถื่อนคือการถูกจับปรับไปจนถึงปิดกิจการ คงไม่มีใครที่อยากให้โรงแรมของตัวเองที่ลงทุนด้วยน้ำพักน้ำแรงและน้ำเงินมหาศาลนั้นต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ นี่คือปัญหาระดับชาติ ที่รัฐบาลเองไม่ได้นิ่งนอนใจที่ผ่านมา

จึงได้มีการออกกฎหมายเพื่อดึงโรงแรมเถื่อนเหล่านี้ให้เข้าระบบให้มากที่สุด โดยเฉพาะกรณีที่เปลี่ยนอาคารเก่าประเภทอื่นมาเป็นโรงแรม จำนวนมากทั่วประเทศนั้น ที่วันที่ 19 สิงหาคม 2559 ได้มีการออกกฎกระทรวงว่าด้วยการ เปลี่ยนอาคารประเภทอื่นเป็นโรงแรม หรือ ในวันที่ 12 มิถุนายน  ที่ได้มี 14 เรื่องการปลดล็อคผังเมืองสำหรับผู้ที่ทำโรงแรมขนาดเล็กในพื้นที่ห้ามทำโรงแรม  ล่าสุดวันที่  2 สิงหาคมที่ได้มีการประกาศใช้ม 44 เพื่อ ให้ผู้ที่ทำโรงแรมผิดกฎหมายนั้นไปรายงานตัวเพื่อยกเว้นโทษจับสถานการณ์ร้อนแรงเหล่านี้ มีรายละเอียดเป็นอย่างไรและสำหรับผู้ประกอบการจะมีทางออกอย่างไร  ควรไปแจ้งรายงานตัวหรือไม่ไปคุยกับ

วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ ผู้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กในประเทศไทยจนกระทั่งถูกเรียกว่าเป็นกูรูแห่งวงการบูติคโฮเต็ล ของประเทศไทยกัน คำถาม ทำไมถึงมีโรงแรมขนาดเล็กที่ผิดกฎหมายในประเทศไทยมากมายขนาดนี้ 
เพราะประเทศเราเต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจ 

ช่วงเวลาที่ผ่านมาก่อนปี 2559 นั้นกฎหมายสำหรับโรงแรมเป็นกฎหมายที่เขียนขึ้นสำหรับการสร้างโรงแรมใหม่จนกระทั่งสิงหาคม 2559 จึงมีการออกกฎหมายสำหรับการอนุญาตให้เปลี่ยนอาคารเก่ามาเป็นโรงแรมได้สาระก็คือเป็นการผ่อนผันเรื่องพื้นที่หลายๆอย่างที่เคยเป็นข้อจำกัดโดยเฉพาะเรื่องของทางเดินบันไดหนีไฟและพื้นที่ว่างเป็นต้นซึ่งกฎหมายปี 59 ได้ทำการลดหย่อนเพื่อให้ผู้ที่เปลี่ยนตึกเก่ามาเป็น โรงแรมสามารถทำได้ให้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากไม่สามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ผมมองว่ามี 2 ประเด็นคือประเด็นที่ 1 การประชาสัมพันธ์กฎหมายค่อนข้างน้อย ผู้ประกอบการแทบจะไม่รู้เรื่องเลยรวมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐเองด้วยจน

ปัจจุบันกฎหมายเหลือเวลาอีก 2 ปีจะหมดอายุแล้ว หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพิ่งเริ่มประชาสัมพันธ์กัน

ประเด็นที่สองคือถึงแม้กฎหมายจะผ่อนผันเรื่องระยะต่างๆและยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ไม่สามารถทำได้เพราะไม่อยากจะทุบตึกเพื่อแก้ไขดัดแปลงตามที่กฎหมายได้กำหนดพื้นที่เอาไว้กลุ่มคนเหล่านี้เมื่อไม่อยากแก้ไขดัดแปลงหรือแก้ไขได้ยากต้องลงทุนเยอะจึงยังคงเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ต่อไป  ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ เมื่อกฎหมายหมดอายุ เดือนสิงหาคมปี 60 40 หรือแม้กระทั่งในปัจจุบันกลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มที่สามารถถูกจับ ปรับปิดกิจการได้ ปัญหาหลักคือกลุ่มเหล่านี้ มีปริมาณเป็นจำนวนมากมากกว่ากลุ่มที่ถูกกฎหมาย  ซึ่งทาง  คสช ที่เพิ่งหมดอายุไป  ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ออกมาตรา 44 มาอีก 2 ฉบับใน 2 ช่วงเวลาเพื่อช่วยกลุ่มคนเหล่านี้ครับ 

คำถาม  มาตรา 44 ทั้ง 2 ฉบับมีรายละเอียดยังไงบ้างช่วยสรุปให้ผู้ประกอบการฟัง-มาตรา44

ฉบับแรกออกมาเมื่อ 12 มิถุนายนมีประเด็นหลักที่สำคัญมากๆคือ อนุญาตให้ผู้ที่เป็นอาคารเก่าเป็นโรงแรม สามารถทำกิจการโรงแรมในพื้นที่ผังเมืองห้ามทำโรงแรมได้ โดยต้องทำให้สำเร็จได้รับใบอนุญาตการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอาคาร ก่อนกฎหมายปี 59 หมดอายุซึ่งกฎหมายนี้จะหมดอายุภายใน 18 สิงหาคมปี 2564  ข้อนี้เป็นประเด็นหลักที่สำคัญที่สุด

อย่างไรก็ตามยังคงมีผู้ประกอบการผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมจึงได้มีมาตรา 44 อีก ฉบับหนึ่ง ออกมาโดยอนุญาตให้ผู้ที่ทำโรงแรมผิดกฎหมายอยู่แล้วสามารถไปแจ้งกับหน่วยงานท้องถิ่นที่ดูแลเรื่องการก่อสร้าง โดยประโยชน์จากการไปแจ้งคือโรงแรมแห่งนั้นจะได้รับการยกเว้นโทษจับ ไปจนกระทั่งวันเวลาที่กฎหมายหนี้หมดอายุในเดือนสิงหาคม 2564 นี่คือโอกาสสำคัญที่สุดสำหรับคนที่ทำโรงแรมและยังผิดกฎหมายอยู่แล้วไม่ต้องการโดนจับครับ

คำถาม แจ้งแล้วจะเป็นการรายงานตัวว่าเราทำผิดกฎหมายหรือไม่

คำตอบ ถูกต้องครับแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคุณจะได้รับการยกเว้นโทษจับดังนั้นถ้าถามว่าใครควรจะไปแจ้งคนนั้นกูเป็นคนที่ศึกษากฎหมายปี 59 แล้วและพร้อมที่จะดัดแปลงอาคารเหล่านั้นให้ถูกต้องตามกฎหมายจึงไปแจ้งเพราะถ้ากูไปแจ้งแล้วคุณไม่ทำให้ถูกกฎหมายเมื่อถึงเวลาจับคุณจะกลายเป็นคนที่โดนจับกลุ่มแรกทันที

คำถามกฎหมายไม่ละเอียดค่อนข้างเยอะไม่ทราบว่าอาจารย์จะมีการบรรยายเรื่องนี้อีกเมื่อไหร่ครับ

คำตอบเนื่องจากเรื่องนี้เร่งด่วนในวัน จันทร์ที่ 2 กันยายน เราจะจัดบรรยายเรื่องนี้ขึ้น ในหัวข้อทำโรงแรมให้ถูกกฎหมายตามมาตรา 44 ฉบับนักธุรกิจเป็นการบรรยายในรูปแบบของผู้ประกอบการให้เจ้าของโรงแรมเข้าใจได้ง่ายเป็นการสรุปข้อกฎหมายทั้งหมดเพื่อให้ปฏิบัติตามได้ง่ายซึ่งจะแตกต่างจากการบรรยายของทางราชการ ที่เน้นฝั่งผู้บังคับใช้กฎหมายเราจะพูดในมุมมองของเจ้าของธุรกิจและขั้นตอนการทำ หัวข้อจะครอบคลุมทุกเรื่องตั้งแต่การทำสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมที่เป็นการทำธุรกิจที่พักขนาดเล็กการเลือกอาคารมาดัดแปลงเป็นโรงแรมให้ถูกกฎหมายการยื่นขออนุญาตการยื่นเอกสารขั้นตอนต่างๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและที่สำคัญคือการจัดประสบการณ์จริงจากเจ้าของโรงแรมที่ประสบความสำเร็จได้รับใบอนุญาตแล้วครับโดยบรรยาย 1 วันเต็มครับ 

คำถาม งานนี้เหมาะกับใครจัดที่ไหนครับ แล้วติดต่ออย่างไร 

คำตอบบอกกับทุกคนที่ยังทำโรงแรมแล้วผิดกฎหมายครับถ้าคุณไม่อยากโดนจับต้องมางานนี้จัดที่มูลนิธิเซนต์คาเบรียลซอยทองหล่อ 25 รับเพียงแค่ 30 คนเท่านั้น เพราะต้องการให้เป็นการบรรยายกลุ่มเล็กทุกคนที่มาจะได้สอบถามอย่างใกล้ชิดค่าอบรมคนละ 3,500 บาทผู้ที่สนใจ คลิกที่ Facebook เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ลครับ

คำถามสุดท้ายอยากให้ฝากอะไรสำหรับคนทำโรงแรมหน่อยครับ

คำตอบผมขอมอบอริยสัจ 4 ข้อให้คนที่อยากทำโรงแรมและประสบความสำเร็จหรือไม่เจ๊ง 4 ข้อนั้นคือจุดขายโรงแรมต้องมีจุดหมายที่ยอดเยี่ยมข้อ 2 กฎหมายโรงแรมต้องถูกกฎหมายได้รับใบอนุญาต ข้อ 3 การเงินต้องมีระบบการเงินกระแสเงินสดที่ดีคล่องตัวเพียงพอสำหรับธุรกิจ ข้อ 4 ระบบต้องมีระบบเพื่อช่วยให้คุณบริหารจัดการได้รวมถึงส่งมอบธุรกิจขายใต้แสงได้เมื่อคุณต้องการออกจากธุรกิจครับขอให้ทุกคนโชคดีครับ