ททท.ภูมิภาคภาคกลางเปิดแผนปี 2564 “Lifestyle Travel @ ภาคกลาง”

ททท.ภูมิภาคภาคกลางเปิดแผนปี 2564 “Lifestyle Travel @ ภาคกลาง”

ส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ระยะใกล้ เดินทางสะดวก เน้นการเดินทางท่องเที่ยวแนวใหม่ (New Normal)

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง พร้อมขับเคลื่อนแผนงานและกิจกรรม ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “Lifestyle Tavel@ภาคกลาง ส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ระยะใกล้ เดินทางสะดวก เน้นการเดินทางท่องเที่ยวแนวใหม่ (New Normal) เสนอกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศให้หันกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เน้นเส้นทางระยะทางใกล้และเดินทางสะดวก

           

นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ได้กล่าวใน งานแถลงข่าวส่งเสริมการท่องเที่ยว Lifestyle Travel @ ภาคกลาง ว่า ภูมิภาคภาคกลางมีความหลากหลาย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม มีอาหารรสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ มีเกจิอาจารย์ที่เป็นเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของผู้คนมาช้านาน ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง เล็งเห็นถึงความสำคัญในการฟื้นฟูและส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว  จึงได้เร่งส่งเสริมและกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจะเริ่มจากการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศระยะใกล้ เดินทางสะดวก พร้อมนำเสนอแนวทางการเดินทางท่องเที่ยวแนวใหม่ (New Normal) และนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศให้หันกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 

ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้จัดเตรียมโครงการและกิจกรรมสำหรับส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม โดยมีโครงการที่โดดเด่นที่จะดำเนินการดังต่อไปนี้

โครงการแรก คือ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Lifestyle Travel @ภาคกลาง  ดำเนินการภายใต้แนวคิด “Camping and Camper @ River Legacy”  เพื่อสนับสนุนนักท่องเที่ยวที่สนใจการพักค้างแคมแบบกางเต็นท์หรือพักค้างแรมบนรถบ้าน(Camper van) ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมและลดความเสี่ยงจากการสัมผัสหรือพบปะผู้คนจำนวนมาก สอดคล้องกับนโยบาย Social distancing ของภาครัฐ และแนวคิด เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ผ่อนคลาย ใกล้บ้านเรา  โครงการนี้จะแบ่งเป็น 6 กิจกรรม ได้แก่  

  1. กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ในรูปแบบ Road trip ในวันที่ 26-27 มีนาคม 2564 เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี เพื่อร่วมทำกิจกรรม CSR ปลูกต้นกัลปพฤกษ์ร่วมกับชุมชนในพื้นที่ โดยจะมีผู้เข้าร่วมจำนวน 120 คนพร้อมรถยนต์ประเภทต่างๆ ที่เป็นสายแคมปปิ้ง เช่น Camper van, car camp, caravan, rooftop เป็นต้น
  2. ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Agent Fam trip ในวันที่ 19-20 มีนาคม 2564 ณ จังหวัดเพชรบุรี โดยมีบริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมจำนวน 60 ราย
  3. ร่วมกับนิตยสาร Time out Bangkok จัด Camping & camper The River Legacy วันที่ 17-18 เมษายน 2564 ณ ปาท่องโก๋แคมปิ้ง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดประสบการณ์ Clamping 2 วัน 1 คืน สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสชุมชนวิถีเกษตร รับประทานอาหารสไตล์ Chef’s Table ที่รังสรรค์เมนูเด็ดจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ปิดท้ายด้วยบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำใต้แสงดาว
  4. จัดกิจกรรมเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ ภายใต้ชื่อ Camping & Camper @ River Legacy วันที่ 24-25 เมษายน 2564 เส้นทางกรุงเทพฯ อ่างทอง ชัยนาท
  5. กิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ในรูปแบบ Live streaming ร่วมกับเพจท่องเที่ยว Sneak out ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 นำเสนอขายดีลพิเศษที่พักสายแคมป์ในพื้นที่ภูมิภาคภาคกลางทั้ง 17 จังหวัด
  6. กิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ event marketing ภายใต้ชื่องาน “Camping & Camper Mart #ตอนโชว์ของ(ไม่)ลับ กำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564  

ทางด้าน นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงโครงการ Luxperience @ภาคกลาง และ โครงการ More River Legacy วิถีเมือง ว่า มีวัตถุประสงค์การจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลาง  นำเสนอขายสินค้าใน 2 รูปแบบ คือ สินค้าที่มีมูลค่าสูงในพื้นที่ภาคกลางและสินค้าท้องถิ่น/ชุมชนที่สามารถสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลาง และเป็นกิจกรรมที่เตรียมดำเนินการในช่วงเวลาอันใกล้ ประกอบด้วย

โครงการ Luxperience @ภาคกลาง ประกอบด้วย  (1) โครงการ เปิดประสบการณ์อาหารถิ่น กินที่บ้าน ร่วมกับ เชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต เสนอขายวัตถุดิบท้องถิ่นในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งได้รับมาตรฐาน GI (Geographical Indications) และวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารถิ่น  โดยที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับสิทธิ์ในการทำอาหารถิ่นร่วมกับเชฟบุ๊ค ผ่านห้อง Zoom แบบส่วนตัว รวมถึง มีการ Live ผ่าน Facebook เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 8 มีนาคม-1 เมษายน 2564

และ (2) กิจกรรม Live Streamying  ผ่าน Facebook Fanpage Sneak Out ซึ่งมีผู้ติดตามมากว่า 3 ล้านคน    โดยนำสินค้ามูลค่าสูงในพื้นที่ภาคกลาง อาทิ ที่พัก ร้านอาหาร มาเสนอขาย กำหนด Live สด ในวันที่ 31 มีนาคม 2564 

ส่วน โครงการ More River Legacy วิถีเมืองรอง นั้น เป็นโครงการที่เน้นกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองภาคกลาง 7 จังหวัด คือ จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท สมุทรสงคราม ราชบุรี  โดยมีกิจกรรมที่จะดำเนินการ 2 กิจกรรม ดังนี้

กิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว  แคมเปญ เมืองรองภาคกลางศิวิไลซ์ ส่งเสริมการขาย โปรโมชั่น และประชาสัมพันธ์ที่จะช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและผู้สูงวัย เดินทางเข้าพื้นที่เมืองรองของภาคกลาง มีระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนมีนาคม-กรกฏาคม 2564 โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจ

  • กิจกรรมส่งเสริมการขาย เปย์เมืองรองให้หนำใจ นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองภาคกลางผ่านช่องทางออนไลน์  Line @เมืองรองภาคกลาง และช่องทางออฟไลน์กับ กิจกรรมคาราวานนำร่องท่องเที่ยวภาคกลาง 2 วัน 1 คืน ตามเส้นทางจังหวัดสมุทรสงคราม-ราชบุรี จำนวน 20 คัน
  • การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่แคมเปญ “เมืองรองภาคกลางศิวิไลซ์ผ่านช่องทางออฟไลน์ ในรายการสมุทรโคจร ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และออนไลน์ผ่านทาง Facebook Pageต่างๆ

กิจกรรมที่สอง เป็นกิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองรองภาคกลาง ภายใต้แนวคิด “More River Legacy มรดกแห่งสายน้ำดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวสู่เมืองรอง โดยให้ Blogger & Youtuber ที่มียอดผู้ติดตามสูง อาทิ Happy Channel, Dek Jew  Small  World, เที่ยวแบบกรู, เลี้ยงลูกสุดเหวี่ยง ลงพื้นที่ทำ Content ประชาสัมพันธ์สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองภาคกลาง ดำเนินการรีวิว และประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ ที่ได้รับมาตรฐาน  SHAจาก ททท. ในพื้นที่เมืองรอง 3 เส้นทาง คือ เส้นทางสุพรรณบุรี-อ่างทอง, สมุทรสงคราม-ราชบุรี, และ ลพบุรี-สิงห์บุรี-อ่างทอง  ดำเนินการระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2564  

โครงการเหล่านี้  ททท.ภูมิภาคภาคกลาง พร้อมขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ช่วยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคกลาง ให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างยั่งยืน

ในการแถลงครั้งนี้ยังมีผู้อำนวยการททท.จังหวัดต่างๆในภาคกลางร่วมด้วยคือ นางจิรารัตน์ มีงามผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานลพบุรี (ดูแลจังหวัดลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท) นายพัฒนพงษ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา (ดูแลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี) นายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี (ดูแลจังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง) นางสาวพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร (ดูแลจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี) นางสาวปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานกาญจนบุรี (ดูแลจังหวัดกาญจนบุรี) นายจิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม (ดูแลจังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร) นางสาวชมพู มฤศโชติ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี (ดูแลจังหวัดเพชรบุรี) นางสาวโศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ (ดูแลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์) นางสาวสรียา บุญมากผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานราชบุรี (ดูแลจังหวัดราชบุรี นครปฐม)