ไทยเฮมพ์ เวลเนส ร่วมกับ มูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ส่งเสริมการปลูกกัญชงแลกป่า

ไทยเฮมพ์ เวลเนส ร่วมกับ มูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ส่งเสริมการปลูกกัญชงแลกป่า

ผลักดันอุตสาหกรรมสารแคนาบินอยด์ โตควบคู่กับการสร้างสมดุล"เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม" ถอดรหัส SDGs สู่ธุรกิจยั่งยืนทุกมิติ

ดร.เสฐียรพงษ์ แก้วสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเฮมพ์เวลเนส จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมกับมูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์โดยมี นายดิเรก ตนพยอม ประธานกรรมการมูลนิธิฯ พลเอกสุทัศน์ จารมณี ประธานที่ปกษามูลนิธิฯ ดร.เพิ่มศักดิ์ สุภาพรเหมินทร์ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชศาสตร์ เตรียมจัดงาน "แถลงผลงาน 3 ปี มูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยภูมิปัญญาทางการเกษตรเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและอนุรักษ์ป่าไม่" ณ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 23 ตุลาคม 2564 นี้

บริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัด ได้ดำเนินภารกิจเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สังคมและการอนุรักษ์ สั่งแวดล้อม โดย นายแพทย์เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา ประธานบริษัทฯร่วมมือกับทีมแพทย์ และนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ ด้านพืชศาสตร์ นิเวศวิทยา วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เทคนโลยีชีวภาพและอุตสาหกรรมอาหาร ผนึกกำลังกับมูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์หน่วยงานภาครัฐ วิสาหกิจชุมชนและเกษตรกร ในภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อนำสายพันธุ์กัญชงพื้นเมืองดั้งเดิม (native strains) จำนวน 83 สายพันธ์ ที่ทำการรวบรวม วิจัยและพัฒนามานานกว่า 20 ปี ภายใต้สภาพภูมิประเทศและอากาศที่เอื้ออำนวยของไทย มีคุณสมบัติพิเศษที่ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ดี สามารถพัฒนาเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (geographicalindicator หรือ GI) เช่น ดิน อุณหภูมิ แสง และอากาศ ของเขตพื้นที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศไทยตลอดจนความชำนาญที่ได้จากภูมิปัญญาในการเพาะปลูกกัญชงของกลุ่มชาติพันธุ์มังที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 5,000 ปี

 

ไทยเฮมพ์ เวลเนส ร่วมกับ มูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ส่งเสริมการปลูกกัญชงแลกป่า

ดร.เสฐียรพงษ์ แก้วสด กล่าวว่า "สายพันธุ์กัญชงที่กำลังวิจัยและพัฒนาอยู่นี้ นอกจากคุณลักษณะที่ดี คือมีสารพฤกษเคมีในกลุ่มแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) สูงแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งคัดเลือกสายพันธุ์ที่มีเทอร์ปืน (terpenes) ซึ่งเป็นสารให้กลิ่นสร้างความสดชื่น ช่วยผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเวชสำอาง ยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่ม รวมถึงสายพันธุ์ที่ให้เมล็ดมีคุณภาพที่ดี อุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่เรียกว่า โอเมก้า 3,6,9 โดยน้ำมันเมล็ดกัญชงมีสัดส่วนใกเคียงกับความต้องการของร่างกายคือประมาณ 1:3:1 ที่ไม่สามารถหาได้จากแหล่งอื่นๆ ซึ่งดีต่อสมองและช่วยควบคุมความดันป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจ ถือเป็นโรคเรื้อรังแบบไม่ติดต่อที่ทำให้เสียชีวิตในอัตราใกล้เคียงกับโรคมะเร็ง

ส่วนการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชงที่มีสาร CBD สูง และสาร THC ต่ำ สู่การนำไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม เวชสำอางเครื่องสำอาง อาหารเสริม ยารักษาโรค และใช่ในการปศุสัตว์ โดยกำหนดจะสัดส่วนของสารแคนนาบินอยด์หรือโปรไฟล์ (cannabinoid profiles) ของสารให้พอดี นอกจากนี้ยังมีส่วนอื่นๆจากกัญชงที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพสัตว์ ซึ่งบริษัทฯ มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งในภาคเหนือที่กำลังทำงานวิจัยเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้กัญชงจำนวน 83 สายพันธุ์ที่นำมาทดสอบ ได้รวบรวมและอนุรักษ์ไว้โดยมูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์

กัญชง มีศักยภาพเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ ที่จะสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างมั่นคง บริษัทฯ มุ่งมั่นส่งเสริมให้กษตรกรสร้างรายได้มากกว่า 600,000 บาท/คน/ปี้ โดยการปลูกกัญชง 1 ไร่ หลังจากหักต้นทุนแล้วเกษตรกรจะมีกำไรไม่ต่ำกว่า ไร่ละ 100,000 บาท หรือเทียบเท่ากับการปลูกข้าวโพด 100 ไร่ สามารถลดปัญหาการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าและลดปัญหาการเผาป่าซึ่งสร้างมลพิษจากหมอกควันไฟ กทั้งยังช่วยแก่ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดล้อม จึงสอดคล้องกับหมุดหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainabledevelopment goals, SDGs) ทุกมิติ"

ไทยเฮมพ์ เวลเนส ร่วมกับ มูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ส่งเสริมการปลูกกัญชงแลกป่า

สำหรับผู้ที่สนใจสารสกัดซีบีดี (CBD) และผลิตภัณฑ์จากกัญชง หรือต้องการพัฒนาสายพันธุ์กัญชงร่วมกับบริษัทฯสามารถติดต่อกับทางบริษัทไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัดCONTACT 061-926-2466 Line at : @thaihempwellness

ไทยเฮมพ์ เวลเนส ร่วมกับ มูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ส่งเสริมการปลูกกัญชงแลกป่า