ประจำเดือนมาเกิน 7 วัน.. อาจไม่ใช่เรื่องปกติ

ประจำเดือนมาเกิน 7 วัน.. อาจไม่ใช่เรื่องปกติ

ประจำเดือนมาเกิน 7 วัน.. อาจไม่ใช่เรื่องปกติ

หากพูดถึงเรื่องประจำเดือนสำหรับผู้หญิง โดยปกติระยะเวลาของการเป็นประจำเดือนจะอยู่ที่ 3 – 7 วัน แต่หลายคนมีประจำเดือนมากกว่า 7 วัน หรืออาจต้องใช้ผ้าอนามัยครั้งละ 2 ชิ้น แสดงว่าร่างกายอาจกำลังบอกถึงความผิดปกติบางอย่าง และอาจทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจว่าจะมีอันตรายหรือไม่

นพ.เจตนา วัฒนาธิษฐาน สูตินรีแพทย์ ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า ประจำเดือนมามากคือ ภาวะที่มีเลือดประจำเดือนไหลออกมามากเกินไปหรือมานานมากกว่า 7 วัน หรือลิ่มเลือดขนาดใหญ่กว่านิ้วหัวแม่มือไหลออกมาพร้อมกับประจำเดือนซึ่งจัดเป็นภาวะประจำเดือนผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ     
 

• ฮอร์โมนไม่สมดุล ร่างกายไม่ตกไข่ตามปกติ ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนไม่สมดุล และสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกหนาเกินไป ทำให้มีเลือดประจำเดือนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดและพบมากในผู้ป่วยโรคเบาหวาน อ้วนเกินไป และเครียดเกินไป 

• ปัญหาเกี่ยวกับมดลูก เนื่องจากมดลูกมีความสัมพันธ์กับการมีประจำเดือน หากเกิดความผิดปกติขึ้นกับมดลูก ได้แก่ เนื้องอกในมดลูก มะเร็งมดลูก มะเร็งปากมดลูก เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ติ่งเนื้อที่ปากมดลูกหรือ  โพรงมดลูก

• ผลข้างเคียงจากการใช้ยา อาหารเสริม และยาสมุนไพรบางชนิด จะทำให้ประจำเดือนมามากผิดปกติอาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาเพื่อการรักษา เช่น ยาฮอร์โมน การให้ยาเคมีบำบัด การใส่ห่วงอนามัยสำหรับคุมกำเนิด ยาสมุนไพรบางชนิด เป็นต้น

• ผู้ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคต่างๆ เช่น เนื้องอกต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โรคเกี่ยวกับตับหรือไต การติดเชื้อในช่องคลอดหรือมดลูก เป็นต้น 

อย่างไรก็ตามการมีประจำเดือนมามากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น ภาวะเลือดจาง เป็นต้น ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และไม่สดชื่น รวมถึงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้ ดังนั้นหากประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือนานเกิน 15 วัน หรือมีเลือดออกกะปริบ ะปรอยไม่ตรงรอบ ควรไปพบโดยสูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาต่อไป