ประโยชน์จากน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม กับการฟื้นฟูสุขภาพ

รู้หรือไม่ว่า...น้ำพุร้อนที่มีลักษณะเฉพาะที่เชื่อกันว่าให้คุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้ และเป็นน้ำเค็มนั้น ในไทยมีเพียงแห่งเดียว นั่นคือ น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 แห่งของโลก อีก 4 แห่งอยู่ที่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น อิตาลี และมาเลเซีย

นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับน้ำพุร้อนแหล่งต่างๆ ในประเทศไทย ภายหลังได้จัดทำคู่มือ "อาบแช่น้ำพุร้อนให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ" สำหรับประชาชน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์น้ำพุร้อนที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่เชื่อมั่นได้ในคุณประโยชน์และความปลอดภัย อีกทั้ง ยังถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในแหล่งน้ำพุร้อนเค็มของประเทศไทยได้อย่างแท้จริง

"แร่ธาตุและอุณหภูมิของน้ำพุร้อนเค็ม อำเภอคลองท่อม มีคุณสมบัติโดดเด่น ซึ่งเกิดจากน้ำทะเลที่ซึมลงชั้นใต้ดิน ผ่านชั้นหิน ผ่านการกรอง 2 ชั้น รสชาติน้ำไม่เค็มเหมือนน้ำทะเล แต่มีรสชาติเหมือนน้ำเกลืออ่อนๆ และไม่มีกลิ่นกำมะถันที่แรงเกินไป โดยจะมีแร่ธาตุหลักคือ โซเดียม คลอไรด์ และแร่ธาตุอื่นๆ อย่าง ซิลิก้า โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาร์บอเนต ในปริมาณที่สูงกว่าค่ามาตรฐานทั่วไป ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเรื่องการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดความดันโลหิต ลดการอักเสบของข้อ เบาหวาน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นระบบประสาท การย่อย และโรคทางผิวหนัง ปัจจุบันได้เริ่มมีแพทย์ทางเลือกนำน้ำพุร้อนเค็มมาช่วยเสริมการแพทย์สมัยใหม่ โดยมี นักกายภาพ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และแพทย์เฉพาะทางมาออกแบบการรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ กันมากขึ้น" นายแพทย์จิโรจ กล่าว

"ด้านการรักษาในประเทศไทยแม้จะยังไม่มีการทำวิจัยเชิงประจักษ์ แต่ในประเทศญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ บางแห่งได้มีโรงพยาบาลด้านกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยใช้น้ำพุร้อนเป็นการบำบัดฟื้นฟูหลัก พร้อมออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคล เนื่องจากโรคและอายุของผู้ป่วยมีความแตกต่างกัน แพทย์จึงต้องมีข้อมูลด้านวิชาการมาสนับสนุนควบคู่กับการฟื้นฟูร่วมกับแพทย์ทางเลือกเพื่อการรักษาที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามในประเทศไทยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวน้ำพุร้อนถูกบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวของผู้สูงอายุ ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงมีการจัดทำมาตรฐานของสถานที่ ความปลอดภัย และด้านบุคลากรดำเนินการ เพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั้งจากในไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันมาตรฐานดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนด้านกฎหมาย และจะประกาศใช้ต่อไป"

 

นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริษัท วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย หนึ่งในผู้พัฒนาพื้นที่ในอำเภอคลองท่อม เปิดเผยว่า การใช้น้ำพุร้อนเค็มบนพื้นที่แต่เดิมเป็นวิถีแบบชนบท โดยมีภาครัฐเปิดให้บริการ เป็นความเชื่อปากต่อปากว่าสามารถป้องกันและรักษาโรคได้ ทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมากจนเกิดความกังวลเรื่องการติดเชื้อ ในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์จึงอยากเป็นผู้แปรเปลี่ยนความกังวลไปสู่การบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการคลองท่อม เฮอริเทจ (Klongtom Heritage) บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ เพื่อปักหมุดให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพ ด้วยเล็งเห็นถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นของน้ำพุร้อนเค็มในพื้นที่อำเภอคลองท่อมว่าเปรียบเสมือนของขวัญ เป็นสมบัติ และมรดกของโลก ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ แต่ต้องใช้ได้กับคนทั้งโลก ดังนั้นการจัดการ การรักษาสุขอนามัย และมาตรฐานต่างๆ ที่นำมาใช้ในโครงการต้องเป็นมาตรฐานระดับโลกด้วยเช่นกัน

"ในช่วง 3 ปีแรกเรากำลังพัฒนาวางผังโครงการ และแบ่งโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนผู้ป่วย โซนคนพึ่งพา โซนคนไม่ต้องพึ่งพา โซนคนวัยเกษียณ หรือโซนคนก่อนเกษียณ เพื่อหากลุ่มผู้ลงทุนที่เขามีความสามารถ และเป็นผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ทางด้านสุขภาพ ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกับเรามาช่วยเติมเต็มจิ๊กซอว์ในโซนต่างๆ ให้กลายเป็นเมืองสุขภาพแห่งใหม่ที่มีกิจกรรมรองรับผู้รักสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลก โดยประมาณกลางปีนี้จะมีการเปิดตัวโรงพยาบาลกายภาพบำบัดเพื่อการฟื้นฟูและบำบัดผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke ด้วยเทคโนโลยีพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์อันทันสมัย โดยทีมแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด นักแก้ไขการพูด นักจิตวิทยา ร่วมกับองค์ความรู้การแพทย์แผนไทย และการแพทย์แผนจีนมาผสมผสานกับคุณสมบัติอันโดดเด่นของน้ำพุร้อนเค็ม ซึ่งถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวแรกที่สำคัญของโครงการคลองท่อม เฮอริเทจ (Klongtom Heritage)" นายวิชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม นอกจากการนำคุณสมบัติอันโดดเด่นของน้ำพุร้อนเค็มมาช่วยสร้างความสมบูรณ์ของสุขภาพแล้ว ทางโครงการยังได้ให้ความสำคัญด้านต่างๆ ในพื้นที่อำเภอคลองท่อม ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้เกิดรายได้ พร้อมเน้นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศให้สามารถดำรงอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนคลองท่อมจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับประเทศ