ซีพีเอฟ ชูเทคโนโลยีหนุนประสิทธิภาพการผลิต ลดปริมาณดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลง 43%
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำตลอดกระบวนการผลิต เสริมหลักการ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) และบริหารจัดการน้ำทิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรของโลกอย่างยั่งยืน
พีรพงศ์ กรินชัย รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สำนักวิศวกรรมกลาง ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ น้ำ และของเสีย ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำ โดยกำหนดให้การบริหารจัดการน้ำเป็นหนึ่งในความเสี่ยงระดับธุรกิจ ซึ่งในปี 2564 บริษัทฯ สามารถลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558 ปริมาณน้ำที่นำมาใช้ซ้ำและใช้ใหม่ร้อยละ 44 ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด ขณะที่ผลการดำเนินงานลดการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตในปีที่ผ่านมา ทำได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2568 ที่จะลดการนำน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลง ร้อยละ 30
ซีพีเอฟ บริหารจัดการการใช้น้ำ เพื่อนำน้ำมาใช้เกิดประโยชน์สูงสุดคือ ลดการใช้น้ำ (Reduce) นำน้ำมาใช้ซ้ำ (Reuse) และนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) โดยนำน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดแล้ว กลับมาใช้ในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตในธุรกิจอาหารสัตว์บก เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างพื้นถนน การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ด้วยเทคโนโลยีการกรองน้ำแบบความละเอียดสูง ชนิดอัลตราฟิลเตรชั่น (Ultrafiltration : UF) ถือว่าเป็นเทคโนโลยีระดับสูงที่ทันสมัย เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำจนมีคุณภาพได้ตามเกณฑ์มาตรฐานการประปา ได้น้ำสะอาดหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เช่น ทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์ ใช้ในห้องน้ำเฉพาะส่วนที่ไม่สัมผัสกับมนุษย์ และมีการต่อยอดด้วยเทคโนโลยีการกรองน้ำแบบรีเวิร์สออสโมซิส (Reverse osmosis) ทำการปรับปรุงคุณภาพน้ำให้เหมาะสม เพื่อนำไปใช้กับระบบระบายความร้อนภายในโรงงาน
บริษัทฯ พัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ อาทิ การปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ด้วยการนำระบบลมเย็น (Air Chill) มาใช้แทนการใช้น้ำเย็น (Water Chill) เพื่อลดอุณหภูมิไก่ ซึ่งสามารถลดการใช้น้ำลงประมาณ ร้อยละ 15 เทียบกับการผลิตเดิม และในส่วนของการปรับปรุงกระบวนการเลี้ยงสัตว์น้ำ นับเป็นส่วนสำคัญของการลดการนำน้ำมาใช้ของ ซีพีเอฟ มีการบำบัดน้ำด้วยระบบไบโอฟลอค(Biofloc) และ UF สามารถหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ในฟาร์มได้ ลดการดึงน้ำจากภายนอกมาใช้ร้อยละ 75 อาทิ ฟาร์มกุ้งบางสระเก้า จังหวัดจันทบุรี และฟาร์มร้อยเพชร จังหวัดตราด ที่นำระบบไบโอฟลอค ซึ่งเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่สามารถบำบัดสารละลายไนโตรเจนที่เกิดจากของเสียที่ขับถ่ายจากกุ้ง ลดการเปลี่ยนถ่ายน้ำในระหว่างการเลี้ยง ส่งผลให้การใช้น้ำลดลง และนำเทคโนโลยี UF กรองน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว หมุนเวียนกลับมาใช้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งผลจากการพัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำของหน่วยธุรกิจต่างๆ ทำให้ในปี 2564 ซีพีเอฟสามารถลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อตันผลผลิตจาก 17.3 ลูกบาศก์เมตรต่อตัน ลงเหลือ 15.28 ลูกบาศก์เมตรต่อตัน
คุณพีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟ ได้ประกาศเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ภายในปี 2563- 2568 โดยมีเป้าหมายลดปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิต ร้อยละ 15 ลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิต ร้อยละ 30 ลดปริมาณของเสียที่กำจัดโดยการฝังกลบและเผาต่อหน่วยการผลิต ร้อยละ 35 และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยการผลิต ร้อยละ 25 ดำเนินการผ่านโครงการต่างๆ อาทิ ในปีนี้บริษัทยกเลิกการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินในกระบวนการผลิตของบริษัทฯ ทั้งหมด (Coal Free 2022) และปัจจุบัน บริษัทฯ เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ร้อยละ 27 ของการใช้พลังงานทั้งหมด รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลหุ่นยนต์ (Robotics) และระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions)
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งทุกหน่วยธุรกิจใช้เป็นหลักและแนวทางในการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งนอกจากการใช้ทรัพยากรน้ำเกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว บริษัทฯ ยังได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำลุ่มน้ำป่าสัก ภายใต้โครงการ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พื้นที่ 6,971 ไร่ ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่ระยะที่สอง (ปี2564 -2568) ของการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่า