โอกาสแรงงานไทยทำงาน"ซาอุฯ ทักษะฝีมือ2.5หมื่นต่อเดือน

เป็นเวลากว่า 32 ปี ที่ประเทศไทยไม่ได้จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย กระทั่งวันที่ 25-26 มกราคม 2565 อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เดินทางไปเยือนตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมารรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย เพื่อฟื้นความสัมพันธ์ 2 ประเทศ รวมถึงการสานความร่วมมือในด้านต่างๆ

ลงนามจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานซาอุฯ

โดยวันที่ 28 มีนาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะ ร่วมพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านแรงงานกับ นายอะห์หมัด บิน สุไลมาน อัลรอยิฮี (H.E. Eng. Ahmad Sulaiman ALRajhi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย ที่กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคม ซาอุดีอาระเบีย จำนวน 2 ฉบับ ประกอบด้วย 1. ข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงาน และ 2. ข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานทำงานในบ้าน

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร  อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2523-2533 ประเทศไทยซาอุดีอาระเบียมีแรงงานไทยไปทำงานประมาณ 3 แสนคนต่อปี โดยมีค่าจ้างขั้นต่ำ ประมาณ 7,500-11,000 บาท ขณะที่อัตราค่าจ้างข้าราชการไทยวุฒิปริญญาตรีในขณะนั้น อยู่ที่ 2,765 บาท ต่อเดือน ทำให้การไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบียได้รับค่าจ้างสูงมาก จนทำให้มีการเรียกว่าแรงงานไทยไปขุดทองที่ซาอุดีอาระเบีย
 

“ไทยหยุดส่งแรงงานไปประเทศซาอุดีอาระเบียกว่า 32 ปี ทำให้ขณะนี้มีแรงงานไทยไปทำงานอยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย เพียง 1,300 คน การลงนามความร่วมมือดังกล่าวถือตลาดใหม่ ความหวังของคนไทยที่ต้องการไปทำงานที่ซาอุฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งในเรื่องการจ้างงาน สิทธิ และสวัสดิการต่างๆ รวมถึงเป็นการป้องกันการค้ามนุษย์ การถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง โดยปัจจุบันมีการเปิดรับสมัครแล้วเกือบ 3,000 อัตรา ซึ่งรอบแรก จะเป็นพยาบาล มีความต้องการกว่า 1,000 อัตรา”นายไพโรจน์ กล่าว

ทักษะสูงค่าตอบแทน2.5หมื่นอัพ

ในอดีตที่ผ่านมาแรงงานไทยจะไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ค่าจ้างสูงสุดเพียง 12,000-15,000 บาท การลงนามความร่วมมือในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ เน้นแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะที่มีค่าตอบแทนสูง ต้องมีค่าจ้างมากกว่า 25,000 บาทขึ้นไป และต้องหาตำแหน่งงานที่จูงใจให้คนไทยอยากไปทำงานที่ซาอุดิอาระเบียมากขึ้น

อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวต่อว่า ตำแหน่งงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียต้องการแรงงานไทยจำนวนมาก อาทิ ช่างเชื่อมใต้น้ำ วิศวกรที่มีความสามารถรอบด้าน ช่างไฟฟ้า ช่างยนต์ ช่างต่างๆ งานครัว งานบ้าน งานสวน ผู้จัดการพยาบาล พยาบาล ผู้ดูแลผู้ป่วยหรือคนชรา พนักงานทำความสะอาด ผู้ช่วยสัตว์แพทย์ พนักงานตัดขนสัตว์เลี้ยง รวมถึงพนักงานขับรถและควบคุมดูแล โดยตำแหน่งงานทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีความต้องการตั้งแต่ระดับปริญญาเอกจนถึงไม่จำกัดวุฒิการศึกษา

“การส่งแรงงานไทยครั้งนี้ อยากให้แรงงานไทยมีทักษะฝีมือไปทำงานเพื่อมีรายได้หลักที่แรงงานพึงพอใจ และนำรายได้เข้าประเทศ ไทย โดยเป้าหมายปี 2565 นี้ จะจัดส่งแรงงานไทยไปซาอุดีอาระเบีย ประมาณ 1 แสนคน ปัจจุบันส่งแรงงานไปแล้ว 60,000 คน ซึ่งหลักในการจัดส่งแรงงานจะเป็นไปตามความต้องการของนายจ้างประเทศซาอุดีอาระเบีย และลูกจ้างไทยที่ต้องการไปทำงานซาอุดีอาระเบีย เบื้องต้นมีแรงงานไทยลงสมัครไปทำงานซาอุดีอาระเบียกว่า 2,400 คน ส่วนใหญ่จะเป็นตำแหน่งพนักงานทั่วไป ช่างต่างๆ แม่ครัว พ่อครัว คนสวนในบ้าน”อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

 

5 วิธีไปทำงานต่างประเทศถูกกฎหมาย

เนื่องจากทางการของประเทศซาอุดีอาระเบียมีมติเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2565 ในการออกวีซ่าให้แก่คนไทย ทำให้ไม่สามารถจัดส่งแรงงานไทยไปก่อนหน้านี้ได้  นายไพโรจน์ กล่าวด้วยว่ากรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริม และสนับสนุนให้แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะมี 5 วิธี คือ 1.กรมการจัดหางานจัดส่ง 2.บริษัทจัดหางานจัดส่ง 3.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงาน 4.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงาน และ5.เดินทางไปทำงานด้วยตนเอง

“บทบาทหน้าที่ของกรมการจัดหางานที่ต้องดำเนินการ คือ การจัดส่งแรงงานไปตามตำแหน่งงาน ที่สำนักแรงงานไทยในประเทศต่างๆ ซึ่งมีทั้งหมด 16 ประเทศ เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ มาเลเซีย จัดส่งตำแหน่งงานมาให้ และทางกรมการจัดหางานก็จะดำเนินการรับสมัครและส่งรายชื่อให้แก่ประเทศนั้นๆ เพื่อคัดคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม” นายไพโรจน์ กล่าว

ส่วน วิธีการอื่นๆ ที่จัดแรงงานไปทำงานต่างประเทศ อาทิ บริษัทจัดหางานก็จะดำเนินการร่วมกับบริษัทจัดหางาน แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมการจัดหางาน ว่าอยู่ในขั้นตอน หรือเก็บค่าใช้จ่ายตรงตามกำหนดหรือไม่

 

คาดปี 66 ส่งแรงงานไปต่างประเทศเพิ่ม

อย่างไรก็ตามคาดว่าปี 2566 มีการเปิดประเทศ จะทำให้สามารถส่งแรงงานไทยเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศหลักๆอย่าง ไต้หวัน ญี่ปุ่น อิสราเอล เกาหลี หรือตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ บาเรน เป็นต้น เชื่อว่าตัวเลขแรงงานจะเริ่มมากขึ้น ผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครไปทำงานต่างประเทศ ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ฝ่ายจัดส่งไปทำงานไต้หวันและประเทศอื่นๆ ชั้น 12 อาคารสำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร หรือ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม www.doe.go.th ทางเว็บไซต์ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

**ขั้นตอนไปทำงานซาอุดีอาระเบีย รวมถึงประเทศอื่น ๆ

-ลงทะเบียน ศูนย์ทะเบียนคนหางานไปทำงานต่างประเทศ toea.doe.go.th

-สำนักงานจัดหางานทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ โทร. สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694

๕**ช่องทางลงทะเบียนสมัครงาน ซาอุดีอาระเบีย

-สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10

-สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ

-ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ toea.doe.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ไปทำงาน-ต่างประเทศ ของกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน

-สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694

 

**.ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานซาอุฯ

**กรณีจัดส่งโดยรัฐ ประมาณ 32,800 บาท** ประกอบด้วย

-ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไปซาอุดีอาระเบีย ประมาณ 20,000 บาท

-ค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่าแบบเข้าออกครั้งเดียว 6,000 บาท

-ค่าหนังสือเดินทาง 1,500 บาท

-ค่าตรวจสุขภาพ 2,300 บาท

-ค่าตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประมาณ 1,000 บาท

-ค่าประกันสุขภาพโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประมาณ 1,000 บาท

-ค่าทดสอบฝีมือแรงงาน 500 บาท

-ค่าตรวจสอบประวัติอาชญากรรม 100 บาท

-ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 400 บาท

 

ที่มา : กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน