พลัสฯ กับการบริหารจัดการความเสี่ยงและความมั่นคงปลอดภัยครอบคลุมทุกมิติ
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กับการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงและความมั่นคงปลอดภัยที่หลากหลายครอบคลุมทุกมิติ พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการทำงานให้ได้คุณภาพระดับสากล
ในยุคที่ทุกสิ่งรอบตัวมีเทคโนโลยีอันแสนชาญฉลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง อาคารอัจฉริยะ (Smart Building) เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการเป็นอาคารสมัยใหม่ โดยการนำนวัตกรรมที่หลากหลายมาเชื่อมต่อให้อาคารสามารถสื่อสารกับผู้ใช้งาน โต้ตอบ เรียนรู้ และปรับสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างแม่นยำ อันจะนำมาสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ความปลอดภัยในอาคาร การใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าสำหรับเจ้าของหรือบริษัทบริหารอาคาร ซึ่งผู้บริหารจัดการอาคาร (Facility Management) ต้องมีความรู้ความเข้าใจถึงองค์ประกอบต่างๆ ของอาคารไม่ว่าจะเป็นรูปแบบอาคาร ระบบวิศวกรรมภายในอาคาร ลักษณะการใช้งาน ผู้ใช้งานที่มีความหลากหลาย รวมถึงงานด้านความเสี่ยงและความปลอดภัย สามารถวางแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน ดูแลความปลอดภัยของอาคาร และของผู้ใช้งานได้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการใช้อาคารให้เป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดประโยชน์สูงสุด
นายชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและระบบวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยความจำเป็นของการต้องมีอาคารสถานที่ (Facility) ซึ่งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ขององค์กรที่หวังให้เกิดผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาวตามเป้าประสงค์ขององค์กร จากประสบการณ์ในการบริหารจัดการอาคารมากว่า 25 ปี พลัสฯ เข้าใจถึงความต้องการ ความซับซ้อนของอาคาร และนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในอาคาร จึงได้คิดค้น พัฒนาชุดความคิด วิธีการปฏิบัติงานของตนเองให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีกับการบริหารจัดการอาคารสถานที่และการดูแลระบบวิศวกรรมอาคาร โดยได้นำมาตรฐานสากล (International Standard Practices) มาใช้เป็น Benchmarking ในการบริหารจัดการอาคาร
ผลลัพธ์ที่เป็นคุณค่าจากการทำงานบริหารจัดการอาคาร มีดังนี้
1. ความมั่นใจในการใช้อาคาร
เรื่องความมั่นคงปลอดภัยในการใช้อาคารของลูกค้า จัดเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในระดับที่สูงของทุกอาคาร ทั้งในเหตุที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและการรักษาทรัพย์สิน การสร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ด้านความมั่นคงของอาคาร แต่เนื่องด้วยอาคารแต่ละอาคารจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันตามลักษณะกิจกรรมที่เกิดขึ้นของแต่ละอาคาร ดังนั้น การจัดการให้เกิดความมั่นใจในการครอบครองหรือการใช้อาคารจะต้องมีการออกแบบและวางแผน ให้สอดคล้องกับปัจจัยเงื่อนไขของแต่ละอาคาร โดยทีมงาน พลัสฯ จะมีการกำกับแผน ติดตามสถานการณ์ และตรวจสอบการดำเนินการตามที่ได้ออกแบบไว้เพื่อเตรียมการไว้ให้พร้อมเมื่อเกิดเหตุการณ์จำเป็น ตัวอย่างเช่น กรณีไฟฟ้าดับ น้ำประปาไม่ไหล เหตุลิฟต์ขัดข้อง เหตุรับมือน้ำท่วม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแผนการรับมือกรณีเหตุฉุกเฉิน และการเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ต่างๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง
2. ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน การจัดการด้านความปลอดภัยและความเสี่ยงในอาคารสถานที่ (Facility) เป็นเรื่องของการจัดสรรทรัพยากรและการจัดให้มีมาตรการ วิธีการ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงาน ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย สอดรับกับลักษณะธุรกิจ สอดคล้องกับระดับความสำคัญของผู้ใช้อาคาร ทางทีมงานพลัสฯ จะศึกษาสภาพและเงื่อนไขความต้องการด้านความมั่นคงปลอดภัยของอาคาร และนำเครื่องมือ ประเมินงานด้านความปลอดภัยที่นิยมใช้ ได้แก่ Job Safety Analysis (JSA) มาช่วยวิเคราะห์และวางแนวปฏิบัติเพื่อการจัดการความเสี่ยงและการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในอาคาร เพื่อหลีกเลี่ยง ลด หรือขจัด รวมทั้งป้องกันควบคุมอันตรายในทุกขั้นตอนอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ของอาคาร โดยทีมงานจะมีการวางแผน สำรวจ ตรวจสอบระบบต่างๆ ตัวอย่างเช่น ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าจุดต่างๆ ที่อาจจะเป็นสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ สำรวจทางหนีไฟไม่ให้มีสิ่งกีดขวาง อุปกรณ์ในการดับเพลิงต้องมีความพร้อมใช้งาน รวมไปถึงการจัดอบรมให้ความรู้ และซ้อมหนีไฟเป็นประจำทุกปี เป็นต้น
3. ความปลอดภัยในระบบวิศวกรรมอาคาร การจัดการด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับ ระบบวิศวกรรมอาคาร ควรดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้สามารถกำหนดการดำเนินการที่เหมาะสมกับเงื่อนไขเฉพาะ และสถานการณ์ที่จำเป็น โดยให้เกิดความสูญเปล่าน้อยที่สุด ประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึง ได้แก่ ประเภท ลักษณะ ชนิดของระบบ / อุปกรณ์ โดยทีมงานของพลัสฯ ได้นำ Standard Operating Procedure (SOP) มาใช้เป็นมาตรฐานการปฏิบัติงานที่บอกถึงกระบวนการทำงานที่มีความเฉพาะของ พลัสฯ SOP เป็นเอกสารที่แนะนำวิธีการปฏิบัติงานต่างๆ โดยระบุขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างถูกต้องและมีทิศทางในแนวเดียวกัน สามารถปรับปรุงพัฒนาได้ตามความเหมาะสมของแต่ละอาคาร ที่สำคัญคือ เพื่อลดความผิดพลาดและยังเพิ่มความมั่นใจในการดูแลของระบบวิศวกรรมอาคารให้กับผู้ใช้อาคารและเจ้าของอาคาร ประกอบไปด้วยระบบไฟฟ้าและสื่อสาร (Electrical & Communication System) ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ (Air conditioning & Ventilation System) ระบบสุขาภิบาลและบำบัดน้ำเสีย (Sanitary & Wastewater Treatment System) ระบบป้องกันเพลิงไหม้ (Fire Protection System) ระบบขนส่งภายในอาคาร (Transportation System) ที่ครอบคลุมระบบวิศวกรรมของอาคารทั้งหมด
พลัสฯ มีมาตรฐานในการตรวจสอบ Check & Balance ประเมินความเสี่ยงอีกครั้งทุกขั้นตอนของการทำงานเป็นมาตรฐานสุดท้าย มาพร้อมคำแนะนำ (Suggestion) สิ่งที่ต้องทำการแก้ไขในจุดที่คิดว่ามีความเสี่ยง พร้อมมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมการทำงาน (Monitor Progress) และติดตามงานอย่างใกล้ชิด (Follow Up) พร้อมทั้งยังคงมุ่งมั่นเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการทำงาน ในงานบริหารอาคารให้ได้รับการยอมรับคุณภาพระดับสากล ที่ครอบคลุมทุกด้าน ตอบโจทย์ทุกมิติ ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้อาคารนั้น ผู้ที่สนใจบริการสามารถดูข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ Plus Property หรือโทร. 02-688-7555