DGA จับมือ Microsoft พัฒนาทักษะบุคลากรภาครัฐ เพื่อก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล
DGA จับมือ Microsoft พัฒนาทักษะบุคลากรภาครัฐ กับโครงการ DIGI Data Camp ซีซั่น 2 เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล
19 เม.ย. 66 สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร. หรือ DGA) ร่วมกับ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ประกาศความคืบหน้าในภารกิจการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐ เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็น รัฐบาลดิจิทัล ตามวิสัยทัศน์ของ DGA โดยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์จะเข้ามายกระดับการปฏิบัติงานผ่านช่องทางดิจิทัล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายของประชาชนในการติดต่อและใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของภาครัฐ พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายยังร่วมกันประกาศโครงการ "DIGI Data Camp สานฝันปั้นอัศวินข้อมูลภาครัฐ" ซีซัน 2 กิจกรรมแฮกกาธอนที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพของบุคลากรภาครัฐในการขับเคลื่อนหน่วยงานของตนให้ก้าวสู่การเป็น Data-Driven Organization อย่างเต็มตัว
การเร่งเครื่องพัฒนาหน่วยงานภาครัฐเข้าสู่ยุคดิจิทัลในครั้งนี้ นับเป็นการตอบรับกับพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นกฎหมายกลางในการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมรองรับการทำงานของหน่วยงานภาครัฐในรูปแบบไฮบริด โดยหน่วยงานภาครัฐกว่า 300 แห่ง ครอบคลุมบุคลากรรวม 1,107 คน จากแพลตฟอร์มที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกอย่าง Microsoft 365 เข้ามายกระดับการให้บริการประชาชน ผ่านการจัดการข้อมูลและการสร้างระบบงานที่ยืดหยุ่นและคล่องตัวมากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้การสนับสนุนของ DGA
ดร. สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เผยว่า ในฐานะที่ DGA เป็นหน่วยงานกลางของการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐปรับเปลี่ยนกระบวนงานด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ความร่วมมือกับ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ในครั้งนี้ เป็นอีกบทบาทที่สำคัญในการทำงานกับผู้ให้บริการเทคโนโลยีในระดับโลกอีกหลายรายที่ DGA ได้ร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมให้เกิดความรู้เท่าทันเทคโนโลยีที่หลากหลายต่อความจำเป็นใช้งานที่แตกต่างกันของหน่วยงานรัฐ ความร่วมมือกับเทคโนโลยีระดับโลกจากไมโครซอฟท์นี้เพื่อส่งเสริมทักษะความรู้ และการใช้ประโยชน์ให้เต็มประสิทธิภาพของบริการกับหน่วยงานกว่า 300 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จึงเป็นความสำคัญในการสร้างแนวทาง มาตรฐาน และกระบวนการดำเนินงานที่สอดรับกับศักยภาพที่มากขึ้นของนวัตกรรมในยุคดิจิทัล ซึ่งจะนำไปสู่บริการที่รวดเร็ว คล่องตัว และยืดหยุ่นกว่าเดิมสำหรับประชาชน อีกทั้งยังมั่นใจได้ยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานโลก
"นอกจากนี้ DGA และ ไมโครซอฟท์ ยังจะร่วมกันจัดกิจกรรมแฮกกาธอนในโครงการ DIGI Data Camp สานฝันปั้นอัศวินข้อมูลภาครัฐ ซีซั่น 2 ซึ่งนับเป็นปีที่สองของโครงการเพื่อการพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีทักษะดียิ่งขึ้นในการเปลี่ยนข้อมูล (Data) ในหน่วยงานและระบบงานให้เป็นข้อมูลเชิงลึก (Insight) ผ่านทางการฝึกอบรมพัฒนาทักษะและเสริมสร้างความสามารถจากผู้เชี่ยวชาญ ก่อนจะนำทักษะมาผสมผสานกับความรู้และประสบการณ์ในการทำงานจริง คิดค้นต่อยอดเป็นเครื่องมือที่เสริมประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มขีดความสามารถในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้ดีกว่าเดิม สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566-2570) โดยในปีที่สองนี้ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการถึง 359 ทีม หรือคิดเป็นข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างในสังกัดภาครัฐรวมกว่า 1,107 คน
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ไมโครซอฟท์เชื่อว่าการสรรสร้างนวัตกรรมสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีเครื่องมือแบบ low-code/no-code เอื้อให้บุคลากรในงานแต่ละสายสามารถสร้างแอปฯ มาแก้ปัญหาหรือตอบโจทย์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทาง DGA เพื่อสนับสนุนโครงการ "DIGI Data Camp สานฝันปั้นอัศวินข้อมูลภาครัฐ" ซึ่งในปีนี้มุ่งผลักดันให้บุคลากรภาครัฐยกระดับความสามารถขึ้นมาเป็น Citizen Developer สร้างแอปพลิเคชันและเครื่องมือที่ตอบโจทย์ในการทำงานจริงผ่าน Microsoft Power Apps ผมเชื่อว่าเครื่องมืออย่าง Microsoft 365 และ Power Platform จะเปิดโอกาสให้บุคลากรของภาครัฐนำไปสร้างนวัตกรรม ต่อยอดการทำงานให้สอดประสานกันมาก รวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมเสริมศักยภาพให้ภาครัฐมุ่งสู่ความเป็น Data Driven Organization ในรูปขององค์กรดิจิทัลที่ยกระดับบริการสาธารณะเพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทยที่ดียิ่งขึ้น
ขณะนี้โครงการ “DIGI Data Camp สานฝันปั้นอัศวินข้อมูลภาครัฐ” ซีซั่น 2 กำลังเดินหน้าจัดหลักสูตรฝึกอบรมใน 6 หัวข้อหลักๆ ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูล พัฒนาแอปฯ และการสร้างระบบอัตโนมัติในการทำงาน ก่อนจะเข้าสู่ช่วงระดมแนวคิดและนำเสนอผลงานในเดือนพฤษภาคม เพื่อเฟ้นหาไอเดียสร้างสรรค์ดีเด่นจาก 8 ทีม ให้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อนำโอกาสและแนวคิดจากโครงการไปพัฒนาต่อยอดเป็นเครื่องมือและบริการเพื่อใช้งานจริงต่อไปในอนาคต โดยจะประกาศผลผู้ชนะเลิศจากโครงการในวันที่ 26 มิถุนายน 2566 นี้