บิทคับ ร่วมพัฒนาหลักสูตรการศึกษาไทย ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
บิทคับเชน จับมือ ฟาสท์ฟิต และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เสริมแกร่งมุ่งพัฒนาหลักสูตรการศึกษาไทย ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
25 เมษายน 2566 บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี ผู้สร้างและดำเนินการ บิทคับเชน เครือข่ายบล็อกเชนที่ได้รับความนิยมสูงสุดของไทย ที่มียอดธุรกรรมกว่า 300 ล้านธุรกรรมบนเครือข่าย (อ้างอิงจาก BKC Scan ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2566) และผู้ให้บริการ Blockchain Total Solution ชั้นนำ ร่วมกับ บริษัท ฟาสท์ฟิต โซกู๊ด จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดทำซอฟต์แวร์ด้านสุขภาพ และวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เสริมแกร่งพร้อมมุ่งพัฒนาหลักสูตรการศึกษาไทยผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
เทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการเข้ามาขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นรากฐานของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต อีกทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาปฏิวัติโลกธุรกิจและเกิดการประยุกต์ใช้เข้ากับชีวิตประจำวันของผู้คนในวงกว้าง นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนยังมีบทบาทในการยกระดับภาคการศึกษา พร้อมสนับสนุนและมอบโอกาสให้กับเยาวชนไทยอีกด้วย
การร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมการเรียนรู้และต่อยอดเพื่อประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีบล็อกเชน และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อาทิ NFT (Non-Fungible Token) และโลกเสมือน (Metaverse) เป็นต้น โดยเป็นการร่วมมือกันทั้งในระดับนักศึกษา คณาจารย์ ตลอดจนผู้ที่สนใจในเทคโนโลยี นอกจากนี้ จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจในตัวเทคโนโลยีผ่านการจัดทำกิจกรรมเพื่อสังคม การจัดทำกิจกรรมเพื่อการศึกษา การจัดทำกิจกรรมเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (SME และ Startup) เป็นต้น
นายภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า พาร์ตเนอร์อย่าง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ฟาสท์ฟิต เป็นพาร์ตเนอร์ที่จะมาช่วยเสริมแกร่งระบบนิเวศบน บิทคับเชน โดยผมเชื่อว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถผลักดันการศึกษาไทยในเชิงเทคโนโลยีสมัยใหม่ อีกทั้งยังเป็นการมอบโอกาสให้กับเยาวชนไทยในการเข้าถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อวางรากฐานต่อยอดสู่การส่งเสริมและพัฒนาภาคธุรกิจและผลักดันการใช้งานจริง (Use Case) ในวงกว้าง ให้เติบโตยิ่งขึ้น
นาย สุรินธร ใหม่อารินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาสท์ฟิต โซกู๊ด จำกัด กล่าวว่า มากกว่าการสร้างโอกาส คือ การเชื่อมโยงโอกาสด้วยการใช้ เทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้ เราเล็งเห็นว่า ความร่วมมือระหว่าง Bitkub Chain และ CAMT CMU จะก่อให้เกิดการศึกษาในเชิงวิจัยที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตและเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ก่อให้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์พร้อมเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจ และการสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ๆ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ Southeast Asia
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรวิชญ์ จันทร์ฉาย คณบดี กล่าวความร่วมมือในครั้งนี้ส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมการเรียนรู้และการนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้เพื่อการศึกษาในหลายรูปแบบ การพัฒนางานวิจัย รวมถึง Metaverse ในอนาคต ซึ่งวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มองเห็นความร่วมมือทั้ง 3 ฝ่าย เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการศึกษาและการพัฒนาที่ยั่งยืนทาง เศรษฐกิจดิจิทัล
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ Bitkub Chain และ Bitkub NFT ได้ที่ Bitkub Chain Website Facebook Twitter และ Bitkub NFT Website Facebook Instagram