TSE แย้มผลงาน Q2/67 สัญญาณดี พร้อมลุยประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่
TSE แย้มผลงานไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ฐานทุนแกร่ง พร้อมเข้าประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งรอบที่ 2 และรอบที่ 3 รุกธุรกิจ Private PPA เล็งจับมือพันธมิตรผ่านการทำ M&A และ JV ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-โรงไฟฟ้าขยะชุมชนทั้งในและต่างประเทศ
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/2567 ตลอดจนถึงสิ้นปี ยังมีทิศทางที่ดีภายใต้แผนธุรกิจที่วางไว้ ทั้งการสร้างรายได้จากธุรกิจเดิม และรายได้จากธุรกิจใหม่ที่จะเป็น New S-Curve ในอนาคต ประเด็นสำคัญคือ บริษัทฯ มีความพร้อมด้านเงินลงทุนที่มาจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น "โอนิโกเบ" มูลค่า 3,357 ล้านบาท บวกกับบริษัทฯ ได้แจ้งใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 (TSE24OA) มูลค่า 1,175 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ก่อนครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 27 ตุลาคม 2567 เพื่อบรรเทาภาระดอกเบี้ยจ่าย ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ลดลงเหลือ 1.72 เท่า ทำให้บริษัทฯ มีความสามารถในการลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต
"ปัจจุบันบริษัทฯ พร้อมเข้าประมูลงานโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งรอบที่ 2 และรอบที่ 3 ตั้งเป้าหมายว่าจะได้งานประมูลราว 100 – 150 เมกะวัตต์ หลังจากปี 2566 ที่บริษัทฯ ชนะประมูลงานโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบที่ 1 เป็นจำนวน 88.66 เมกะวัตต์ เสนอขายควบคู่กับแผนธุรกิจ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) หรือข้อตกลงการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งแบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) และแบบติดตั้งบนผืนน้ำ (Solar Floating) ของผู้ประกอบการธุรกิจแบบครบวงจร และการทำ M&A (Mergers and Acquisitions) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งกำลังการผลิต รวมถึงแผนจับมือกับพันธมิตรในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในประเทศไทย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ"
ดร.แคทลีน กล่าวเสริมว่า ส่วนธุรกิจ Healthcare ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่จะสร้าง New S-Curve และเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ นั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก คาดว่าพร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ หลังจากในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับนายแพทย์วิวรรธน์ ชินพิลาศ ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และผู้ก่อตั้งคลินิก Bangkok IVF Clinic เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในแผนธุรกิจ Healthcare ซึ่งจัดอยู่ในเมกะเทรนด์และมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยมั่นใจว่าความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้จะสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
"สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2567) กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 314 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 97 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการ (รวมรายได้เงินอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder)) จำนวน 295 ล้านบาท"