กรมหม่อนไหมเร่งตรวจสอบสิทธิการรับเงินเยียวยา
กรมหม่อนไหมเผยเกษตรกรผู้มีอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้าไหม เร่งตรวจสอบสิทธิการรับเงินเยียวยา ที่ สนง.เกษตรอำเภอใกล้บ้าน ก่อน 15 พฤษภาคมนี้
นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ อธิบดีกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 เห็นชอบมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ครัวเรือนละ 15,000 บาท รวม 10 ล้านครัวเรือน วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอจ่ายรวม 3 เดือน เดือนละ 5,000 บาท ซึ่งเกษตรกรจะต้องยื่นจดทะเบียนภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 นั้น ในส่วนของการจดทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ล่าสุดจากการประชุมหารือกับนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ข้อสรุปว่าขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่จดทะเบียนกับกรมหม่อนไหมยังไม่สามารถใช้รับเงินเยียวยาเกษตรกรดังกล่าวได้ เนื่องจากมติของรัฐบาลให้ใช้ผลการจดทะเบียนของกรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ เท่านั้น
ทั้งนี้ เกษตรกรต้องมีพื้นที่ปลูกหม่อน หรือเลี้ยงไหม ส่วนเกษตรกรที่ทอผ้าไหมและกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่มีแปลงหม่อน กรมส่งเสริมการเกษตรไม่รับจดทะเบียน ดังนั้น เกษตรกรที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ให้เร่งตรวจสอบสถานะตัวเองด่วน หากยังไม่ได้จดทะเบียน ให้ไปจดทะเบียนที่ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ส่วนเกษตรกรที่เจ้าของบ้านจดทะเบียนเกษตรกรไว้แล้ว จะจ่ายให้หัวหน้าครอบครัวเพียง 1 รายเท่านั้น และผู้ที่ไม่สามารถรับเงินช่วยเหลือเกษตรกรได้คือข้าราชการบำนาญ ผู้รับเงินประกันสังคม และผู้มีอาชีพอิสระ
“ทั้งนี้ กรมหม่อนไหมได้รวบรวมข้อมูลการจดทะเบียนเกษตรกร ที่จดทะเบียนกับกรมหม่อนไหม ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 โดยได้ส่งรายชื่อผู้ปลูกหม่อน ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าไหมและกิจกรรมด้านหม่อนไหมอื่นๆ รวม จำนวน 39,904 ราย. ให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พิจารณา เพื่อนำไปเทียบกับทะเบียนของกรมส่งเสริมการเกษตร โดยจะจ่ายเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าครัวเรือน ซึ่งอาจไม่ครบ 39,904 ราย ถ้ารายชื่อไปซ้ำกับเจ้าบ้าน ก็จะไม่ได้รับเงิน โดยจะได้รับเงินครอบครัวละ 1 รายเท่านั้น” อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าว
อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวต่อไปว่า สำหรับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้าไหมกับกรมหม่อนไหมนั้น กรมหม่อนไหมได้กำหนดระเบียบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้าไหม โดยเกษตรกรจะต้องมีคุณสมบัติและอุปกรณ์แสดงการประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้าไหม คือ เกษตรกรผู้ปลูกหม่อน จะต้องมีพื้นที่ปลูกหม่อน หรือ มีจำนวนต้นหม่อน ดังนี้ 1) ใบหม่อนสดเพื่อจำหน่ายใบ. ต้องมีพื้นที่/จำนวนต้น ไม่น้อยกว่า 1 งาน หรือ 250 ต้น 2) ใบหม่อนเพื่อทำชาหม่อน ต้องมีพื้นที่/จำนวนต้น ไม่น้อยกว่า 1 งาน หรือ 250 ต้น 3) หม่อนผลสด ต้องมีพื้นที่/จำนวนต้น ไม่น้อยกว่า 1 งาน หรือ 25 ต้น 4) ใบหม่อนสดเพื่อเลี้ยงไหมหัตถกรรม ต้องมีพื้นที่/จำนวนต้น ไม่น้อยกว่า 1 งาน หรือ 250 ต้น 5) ใบหม่อนสดเพื่อเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม ต้องมีพื้นที่/จำนวนต้น ไม่น้อยกว่า 1 ไร่ หรือ 375 ต้น นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงไหมต้องมีห้องเลี้ยง/โรงเลี้ยงไหม พร้อมอุปกรณ์การเลี้ยงไหมครบ และรวมทั้งเกษตรกรผู้ทอผ้าไหม ต้องมีกี่อย่างน้อย 1 ตัว พร้อมอุปกรณ์การทอผ้าไหมครบ โดยมีกี่เป็นของตนเอง และหรือเป็นของกลุ่ม