วีรันดาผุดแคมเปญบ้านตากอากาศหัวหินรับครม.ไฟเขียวต่างชาติถือครองที่ดิน

วีรันดาผุดแคมเปญบ้านตากอากาศหัวหินรับครม.ไฟเขียวต่างชาติถือครองที่ดิน

วีรันดา เขย่าตลาดโค้งสุดท้ายผุดแคมเปญบ้านพักตากอากาศ 'Veranda Pool Villas Hua Hin – Cha Am' ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Branded Residence รองรับตลาดไฮเอนด์บนทำเลทองหัวหินชะอำ หลังครม.ไฟเขียวชาวต่างชาติถือครองที่ดินหนุนตลาดคึกคัก

 นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และ Branded Residence เปิดเผยว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์การตลาดในเชิงรุก หลังจากได้เปิดตัวโครงการ Veranda Pool Villas Hua Hin – Cha Am บ้านพักตากอากาศที่มุ่งสร้างประสบการณ์บ้านพักตากอากาศแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการระดับ 5 ดาวด้วยทำเลติดกับ วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน ชะอำ  เพื่อตอบรับวิถีการท่องเที่ยวใหม่ ที่เน้นความเป็นส่วนตัวได้ใช้เวลาทำกิจกรรมในกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวมากขึ้น 

พร้อมเพิ่มพื้นที่ส่วนรีสอร์ทเพื่อตอบสนองทุกไลฟสไตล์ ที่มีเพียงจำนวน 13 หลัง มูลค่าโครงการกว่า 300 ล้านบาท โดยโครงการจะพัฒนาเป็น 2 เฟส ซึ่งเฟสแรกจะเปิดตัวขนาด 3 ห้อง และขนาด 5 ห้อง จำนวน 7 หลัง จะเริ่มเปิดจองไตรมาส 4 ปี 2565 ถึงไตรมาส 2 ปี 2566 และเฟส 2 เปิดจองไตรมาส 1 ปี 2566  โดยโครงการได้เริ่มก่อสร้างแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จตั้งแต่กลางปี 2566  
 

ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญการตลาด "Exclusive Afternoon Tea With Veranda Pool Villas Hua Hin Cha Am" โดยวีรันดา รีสอร์ท เชิญชวนสัมผัสบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟดื่มด่ำกับชาและของว่างยามบ่าย พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Veranda Pool Villas Hua Hin – Cha Am ซึ่งสามารถเลือกรับฟังข้อเสนอโครงการได้ที่ โรงแรม So/Bangkok ถนนสาทร พร้อมรับชุดดื่มชาและของว่างสำหรับ 2 ท่านที่ MIXO ชั้น 9 หรือที่ วีรันดา รีสอร์ท แอนด์วิลล่า หัวหิน ชะอำ ที่ THE GLASS ROOM 

            สำหรับความโดดเด่นโครงการ Veranda Pool Villas Hua Hin – Cha Am เปิดขายมีทั้งหมด 13 หลัง แบ่งเป็น Exclusive Pool Villa พูลวิลล่าแบบ 2 ห้องนอน จำนวน 6 หลัง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 248 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 16.5 ล้านบาท และพูลวิลล่าแบบ 3 ห้องนอน จำนวน 6 หลัง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 481 ตร.ม. และ Penthouse Pool Villa พูลวิลล่าแบบ 5 ห้องนอนที่มีเพียง 1 หลัง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 756 ตร.ม.

โดยเป็นบ้านพักตากอากาศนิยามใหม่มอบความลักซ์ชัวรี่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ มาพร้อมสระว่ายน้ำบน Rooftop ระบบน้ำเกลือ, EV Charger ทุกหลัง รวมถึงสามารถเลือกรับบริการต่าง ๆ ของรีสอร์ทได้ อาทิเช่น ร้านอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส แม่บ้านทำความสะอาด และมีการบริหารการเช่าพูลวิลล่าโดย วีรันดา รีสอร์ท  

 นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนการพัฒนาโครงการ Veranda Pool Villas Hua Hin – Cha Am โดยเพิ่มพื้นที่ในจุด Lobby-Drop off เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการเข้าพักที่บ้านพักตากอากาศพูลวิลล่า และชูการดีไซน์สร้างบรรยากาศให้โปร่งโล่ง ตลอดจนสร้างสรรค์พื้นที่การทำกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์ภายใต้ "Lifestyle clubhouse" เพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งการพักผ่อนพร้อมทั้งได้สัมผัสโซน Pool Villa ใหม่นี้ด้วยการตกแต่งสร้างบรรยากาศให้มีความสนุกและผ่อนคลาย เพื่อสนุกกับกิจกรรมได้ทั้งครอบครัว เช่น นั่งเล่น ดื่มกาแฟ อ่านหนังสือ เปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน รวมถึงมีฟิตเนสของโซนมุมส่วนตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดและขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น 

นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า โครงการ Veranda Pool Villas Hua Hin – Cha Am เป็นไพร์มโลเคชันในย่านชะอำ-หัวหิน ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพและหาไม่ได้อีกแล้วในย่านนี้ อีกทั้งยังเป็นเดสติเนชันสำหรับการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้งนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งสอดรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนจากกระทรวงมหาดไทย ที่เปิดโอกาสให้กับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจหรือกิจการประเภทหนึ่งประเภทใดในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี  สามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่

 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ซึ่งร่างกฎกระทรวงนี้ จะมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และด้วย Facility ที่โครงการพัฒนาขึ้นเพื่อมอบกับสมาชิกครอบครัวในระดับ Luxury Hotel การดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์  โดยวางเป้าหมายแคมเปญ "Exclusive Afternoon Tea With Veranda Pool Villas Hua Hin Cha Am" จะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ตามเป้าหมายและทยอยรับรู้รายได้กลางปี 2566 เป็นต้นไป