เซ็นทรัลพัฒนาเร่งยึดเกตเวย์สู่ภูมิภาคปักหมุดมิกซ์ยูส‘นครสวรรค์-นครปฐม’

ชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การขยาย Retail-Led Mixed-Use Development ของเซ็นทรัลพัฒนามุ่งสร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ตามแผนลงทุน 5 ปี จะขยายโครงการครอบคลุมกว่า 30 จังหวัดทั่วประเทศ ในฐานะ Place Maker ที่บุกเบิกเมืองศักยภาพเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของผู้คน ชุมชน

โดยมีการยกระดับโครงการมิกซ์ยูสโมเดลใหม่ ผสมผสาน Sustainability ที่จะเป็นมาตรฐานของการพัฒนาโครงการใหม่จากนี้!  พร้อมสร้าง Master Plan เชื่อมโยงไปสู่ Neighbouring Component ใกล้เคียง ปักหมุดแลนด์มาร์คสำคัญในเมืองและชุมชน ล่าสุดปักหมุดโครงการ “เซ็นทรัล นครสวรรค์”  และ “เซ็นทรัล นครปฐม” ที่จะเปิดบริการไตรมาส 1-2 ของปี 2567 ภายใต้เม็ดเงินลงทุนรวม 14,000 ล้านบาท
 

“นครสวรรค์” มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและประตูสู่ภาคเหนือ ขณะที่ “นครปฐม” เป็น Center of Satellite City ที่รองรับการขยายตัวของเมือง โดยทั้ง 2 โลเคชั่น นับเป็นการบุกเบิกโครงการมิกซ์ยูสแห่งอนาคต ที่ใส่ใจทั้งเฮลธ์แอนด์เวลเนส รองรับมัลติ-เจนเนอเรชัน ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงการเปิดพื้นที่เพื่อชุมชนมากขึ้น

"จุดแข็ง ของเซ็นทรัลพัฒนาคือการเล็งเห็นศักยภาพและเจาะเมืองเศรษฐกิจใหม่ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทุกครั้งที่ขยายโครงการใหม่ เราใช้ Data-Driven Customer Insight ทั้งข้อมูลจาก The 1 การลงทุนต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน สร้างสรรค์โครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในเชิงลึก"

นอกจากนี้ ยังมี Synergy ของกลุ่มเซ็นทรัลที่ได้มีการพัฒนาคอนเซปต์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร หรือธุรกิจโรงแรม จะมี 3แบรนด์เรือธง ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมเซนทารา, เซนทาราวัน และ โก
 

 ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด กล่าวเสริมว่า  เซ็นทรัล นครสวรรค์ เป็นประตูสำคัญในการจับดีมานด์ภาคเหนือ ด้วยความเป็นเมืองเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งภาคเหนือตอนล่าง และการเป็นสมาร์ทซิตี้

เซ็นทรัล นครสวรรค์ เป็นมิกซ์ยูสใจกลางเมือง มูลค่าโครงการ 5,800 ล้านบาท บนที่ดิน 42 ไร่ โดยศูนย์การค้า มีพื้นที่ (GFA) 76,000 ตร.ม. เปิดให้บริการไตรมาสแรกปีหน้า พร้อมโรงแรม 200 ห้อง คอนโด และ Urban Park ขนาดใหญ่ 2 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลที่เชื่อมโยงบน Master Plan  รองรับการใช้ชีวิตตอบโจทย์ Multi-Generation Community

จากข้อมูลพบว่า GPP ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวของนครสวรรค์กว่า 1.2 แสนบาทต่อปี เทียบเท่าขอนแก่น และครัวเรือนมีรายได้ มากกว่า 21,000 บาทต่อเดือน สูงกว่าเชียงราย มีประชากรเป้าหมายกว่า 1 ล้านคน รวมประชากรในนครสวรรค์ และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ กำแพงเพชร, อุทัยธานี, ชัยนาท, ลพบุรี และพิจิตร นอกจากนี้ตลาดที่อยู่อาศัยเติบโต 6% ใน 5 ปี ราคาเฉลี่ย 2.5 ล้านบาท

อิศเรศ จิราธิวัฒน์  ผู้จัดการแผนกพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า สำหรับ เซ็นทรัล นครปฐม มูลค่าโครงการ 8,200 ล้านบาท บนที่ดินเกือบ 100 ไร่ ประกอบด้วยศูนย์การค้าพื้นที่ (GFA) 69,000 ตร.ม. เปิดให้บริการไตรมาส 2 ปี 2567 มีโรงแรม 200 ห้อง คอนโด หมู่บ้านจัดสรรและ Urban Park ขนาดใหญ่ 4 ไร่ ตอบโจทย์คนนครปฐมไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ รวมทั้ง นักเรียนนักศึกษา นักท่องเที่ยว และรองรับลูกค้าจากราชบุรีและกาญจนบุรี

  “เป็นยุทธศาสตร์ในการขยายไปภาคตะวันตก โดยมีนครปฐมเป็นประตูเชื่อมจังหวัดใกล้เคียงราชบุรี กาญจนบุรี ทำเลใกล้มหาวิทยาลัยและสถานที่สำคัญ ทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางของเมือง ตอบโจทย์ลูกค้าได้โดยไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ”

นครปฐมเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และธรรมชาติ มีแลนด์มาร์กสำคัญอย่างพระปฐมเจดีย์ "เซ็นทรัล นครปฐม“ เข้ามาต่อยอดความเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และมีเรื่องราว ที่สำคัญติดอันดับ 10 จังหวัดที่มี GPP (ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัว) สูงกว่า 3.75 แสนบาท มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ รายได้ครัวเรือนสูง เติบโตจากปีที่แล้วถึง 5% อยู่ที่ประมาณ 34,000 บาทต่อเดือน ครอบคลุมประชากรกว่า 1 ล้านคน รวมทั้ง ”นักท่องเที่ยว" และ "นักเดินทาง" ที่มาพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ โดยมีตัวเลขนักท่องเที่ยวกว่า 4 ล้านคนต่อปี เป็นชาวไทย 97% ต่างชาติ 3%