ตุลาการศาลปกครองแนะแอชตัน อโศก-สยามสมาคมฯหาทางออกไม่ต้องทุบตึกใน120 วัน
ตุลาการศาลปกครองกลาง กรณีสยามสมาคมฟ้องระงับการก่อสร้างและรื้อถอนโครงการแอชตัน อโศกมีความเห็นให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 3 กับ ผู้ร้องสอดที่ 1 พิจารณาแก้ไขโครงการแอชตัน อโศก ให้เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 ข้อ 2 วรรคสอง ภายใน 120 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
จากช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางตุลาการผู้แถลงคดีได้มีการตีความในเรื่องของการก่อสร้างในโครงการแอชตัน-อโศก ที่สยามสมาคมฯ ยื่นฟ้องหน่วยงานภาครัฐต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีระงับการก่อสร้างและรื้อถอนโครงการว่า
ได้ทำผิดเงื่อนไขตามกฎกระทรวง แต่ไม่ถึงต้องให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง และได้มีคำสั่งให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟม.) กลับไปดำเนินการให้ถูกต้องตามเงื่อนไขภายใน 120 วันนับจากวันที่คดีถึงที่สุด
ล่าสุดทางบริษัท อนันดา เอ็มเอ็ฟ เอเชีย อโศก จำกัด ได้ออก COMPANY STATEMENT
คดีโครงการแอชตัน อโศก
จากกรณีที่สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ยื่นฟ้องหน่วยงานภาครัฐต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีระงับการก่อสร้างและรื้อถอนอาคารโครงการแอชตัน อโศก ส่วนที่ก่อสร้างขึ้นมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งบริษัท อนันดา เอ็มเอ็ฟ เอเชีย อโศก จำกัด ได้รับแจ้งจากศาลปกครองกลางให้เข้าเป็นคู่ความในฐานะผู้ร้องสอด เนื่องจากมีส่วนได้ส่วนเสียต่อกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางได้กำหนดนัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 14 พฤศจิกาย 2565 และตุลาการผู้แถลงคดีได้แสดงความเห็น ใน 2 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่ 1 กรณีพิพาทเกี่ยวกับกฎกระทรวงฉบับที่ 33 ข้อ 2 วรรคสอง เป็นกรณีที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารชุด พ.ศ 2522 ตามมาตรา 40 ถึงมาตรา 43 จึงเป็นเรื่องที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) และที่ 3 (ผู้อำนวยการเขตวัฒนา) และ ผู้ร้องสอดที่1 (บริษัท อนันดา เอ็มเอ็ฟ เอเชีย อโศก จำกัด) จะต้องไปพิจารณาแก้ไขให้ถูกต้อง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 ข้อ 2 วรรคสอง
ประเด็นที่ 2 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 3 กับ ผู้ร้องสอดที่ 1 พิจารณาแก้ไขโครงการแอชตัน อโศก ให้เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 ข้อ 2 วรรคสอง ภายใน 120 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
ทั้งนี้ ความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดีไม่ได้มีผลผูกพันตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและคู่พิพาทแต่อย่างใด ซึ่งศาลปกครองกลางได้กำหนดนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565
อนึ่ง คดีดังกล่าวเป็นเพียงการพิจารณาในศาลชั้นต้น ซึ่งยังไม่ถึงที่สุด คู่พิพาทยังสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุดได้ อย่างไรก็ดี คดีในประเด็นดังกล่าวมานั้น เป็นประเด็นเดียวกับคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองและอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาภายในปีพ.ศ. 2565
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท อนันดา เอ็มเอ็ฟ เอเชีย อโศก จำกัด