‘โซลาร์รูฟ’ แม่เหล็ก แหล่งรายได้ใหม่อสังหาฯ

‘โซลาร์รูฟ’ แม่เหล็ก  แหล่งรายได้ใหม่อสังหาฯ

จากการที่ค่าไฟแพง ส่งผลให้คนแห่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ค่ายอสังหาฯขานรับกระแส ด้วยการชู‘โซลาร์รูฟ’ มาเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดลูกค้าและแหล่งรายได้ใหม่

สถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนอยู่ติดบ้าน และส่วนหนึ่งเปลี่ยนมาทำงานที่บ้านมากขึ้น ยิ่งค่าไฟแพงขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่รอบเดือน ก.ย.ถึง ธ.ค.ปีนี้ อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และอาจปรับเพิ่มอีกในปีหน้านั้น เป็น “ตัวเร่ง” การตัดสินใจของผู้บริโภคในการตัดสินใจติดตั้งโซลาร์รูฟเพื่อลดค่าไฟ

ขณะเดียวกัน ในฝั่งของผู้ประกอบการอสังหาฯ มองเห็น “โอกาส” ในการตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป ในโครงการเพื่อเป็นแม่เหล็ก (Magnet) ที่สำคัญในการดึงลูกค้า แถมยังเป็นแหล่ง “รายได้ใหม่” ให้กับผู้พัฒนาอสังหาฯ ในอนาคต

ทั้งนี้ เนื่องจากรายได้ของผู้พัฒนาอสังหาฯ ช่วง 1-3 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มเติบโตเพียง 3.6% ต่ำกว่าช่วงก่อนหน้าที่เคยเติบโตได้ 7.2% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อในประเทศได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น และหนี้ครัวเรือนสูง ส่วนกำลังซื้อของชาวต่างชาติยังไม่กลับมา โดยเฉพาะคนจีนถูกจำกัดจากมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ

ประกอบกับมีการประเมินมูลค่าตลาดโซลาร์รูฟท็อป ที่ระบุว่ามีแนวโน้มสูงถึง 1.37 แสนล้านใน 10 ปีข้างหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดีมานด์ใช้โซลาร์รูฟท็อปมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นมาจากความ “คุ้มค่า” ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากราคาโซลาร์รูฟท็อปที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง 

และในส่วนของจุดคุ้มทุนของโซลาร์สำหรับบ้านอายุการใช้งาน 5-7 ปี ส่วนที่เป็นโซลาร์สำหรับโรงงานที่มีขนาดใหญ่จะมีต้นทุนต่ำลงมาอยู่ที่ 3 ปี เทียบกับระยะเวลาการใช้งานที่ยาวถึง 25 ปี จึงคุ้มค่าที่จะลงทุนติดตั้ง จึงไม่น่าแปลกที่ช่วงนี้กระแสโซลาร์รูฟให้ลูกบ้านของค่ายอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นค่ายเสนาฯ ที่ชูจุดขายโครงการหมู่บ้านใช้พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัยเต็มรูปแบบ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพ ปัจจุบันเสนาฯ ได้ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปทุกโครงการ ทั้งประเภทบ้านที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียมบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง มีบ้านที่ติดตั้งโซลาร์แล้ว 47 โครงการ แบ่งเป็นแนวสูง 22 โครงการ แนวราบ 25 โครงการ รวมกว่า 700 หลังคาเรือน คิดเป็นการผลิตไฟกว่า 2,000 กิโลวัตต์ ล่าสุดนำโมเดล Zero Energy Housing (ZEH) ในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม เพื่อลดการใช้พลังงานให้เป็นศูนย์
 

ขณะที่ค่ายศุภาลัย ผนึกกสิกรไทยติดโซลาร์รูฟให้ลูกบ้านภายใต้โครงการ SolarPlus ของธนาคารกสิกรไทย ประเดิมติดตั้งแผงโซลาร์รูฟที่โครงการศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2 พร้อมบำรุงรักษาให้ลูกบ้านที่เข้าร่วมโครงการ ฟรี! เดินหน้าขยายโครงการอีก 4 โครงการภายในปีนี้ ทั้งยังมีแผนขยายโครงการต่อไปในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนการเข้าถึงพลังงานสะอาดด้วยโซลาร์รูฟสู่ผู้อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น

เนื่องจากพลังงานทดแทน หรือพลังงานสะอาด กำลังเป็นเทรนด์ที่หลายภาคส่วนต่างหันมาให้ความสนใจ และมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมารองรับต่อความต้องการในปัจจุบัน เพื่อเป้าหมายการลดใช้พลังงานและลดปัญหา สภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เหล่าดีเวลลอปเปอร์เลือกใช้ เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กร