"พรีบิลท์"สร้างกำไรพอร์ตอสังหาฯนำร่องแนวราบจ่อผุด2คอนโดสุขุมวิท

พรีบิลท์พลิกโมเดลธุรกิจสร้างกำไรเพิ่มเร่งปรับสัดส่วนกำไรจากโครงการอสังหาฯเสริมแกร่งพอร์ตก่อสร้างตั้งเป้าภายใน 3 ปีกำไรเท่ากัน ระบุเล็งปั้นคอนโด 2โครงการย่านสุขุมวิทโลว์ไรส์ และไฮไรส์ 33 ชั้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว
นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมานานเริ่มเห็นโอกาสต่อยอดธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงด้วยการขยายธุรกิจเข้าสู่การเป็นดีเวลลอปเปอร์ โดยในปี 2563 ได้พัฒนาอสังหาฯจำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท ในปีนี้ได้วางเป้าหมายจะบาลานซ์กำไร 2 ธุรกิจหลักให้เท่ากันภายใน 3 ปี จากปัจจุบันธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีสัดส่วนรายได้ 80% และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 20%
โดยในปี 2566 ธุรกิจรับเหมาจะรับรู้รายได้ 3,000 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของแบ็กลอคปัจจุบันอยู่ที่6,000 ล้านบาทโดยมีแผนประมูลงานก่อสร้างคอนโดและสำนักงานอีก 10,000 ล้านบาท คาดจะได้บทสรุปในไตรมาส 2 ปีนี้
“แม้ว่าธุรกิจรับเหมาเป็นพอร์ตหลักของบริษัทที่สร้างยอดขาย แต่กำไรน้อยเมื่อเทียบกับการพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อขาย ดังนั้นเป้าหมายในการพัฒนาโครงการอสังหาฯในเซกเมนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทำเลนั้นๆ เพื่อผลักดันให้รายได้บริษัทเติบโตปีละ 20%”
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการในปี2566 ยังคงเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ พิมนารา ศรีนครินทร์ มูลค่ารวม เฟสแรก 50 หลัง ขายได้แล้ว 40 หลัง โอนแล้ว 35 หลัง เฟส 2 เปิดเพิ่มอีก 44 หลัง โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์ รังสิต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 117 ยูนิต มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท
เฟสแรกขายไปแล้ว 20 ยูนิต จาก 40 ยูนิต และโอนกรรมสิทธิ์ 4-5 ยูนิต โครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์ รังสิต ทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 250 ยูนิต ราคา 2.6-3.5 ล้านบาท มูลค่ารวม 700 ล้านบาท เฟสแรกเปิด 50 ยูนิต ขายไปแล้ว 40 ยูนิต
ขณะนี้กำลังเปิดขายเฟส 2 โครงการพิมนารา ศาลายา เป็นบ้านเดี่ยว มีทั้งหมด 77 ยูนิต ราคา 5.5-7 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท จะเปิดตัวในไตรมาส3 ปีนี้ และโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา บ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป จำนวน 51 ยูนิต ราคา 15 -19 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท ไตรมาส4 ปีนี้
นอกจากนี้ทางบริษัทมีแผนที่จะนำที่ดินในมือ จำนวน 2 แปลง มาแปลงพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ เริ่มต้นจากที่ดินซอยสุขุมวิท 24 มีพื้นที่ 1 ไร่ครึ่งสร้างเป็นคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น ส่วนที่ดินสุขุมวิท 26 ที่มีขนาด 300 ตารางวาจะเป็นคอนโดไฮไรส์ 33 ชั้น ซึ่งรอจังหวะที่เหมาะสมที่สุด โดยที่ผ่านมาพรีบิลท์เตรียมงบสำหรับซื้อที่ดินไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีเป้ายอดขาย และยอดรับรู้รายได้ ดังนี้ปี 2563 ยอดรับรู้รายได้ 125 ล้านบาทปี 2564 ยอดรับรู้รายได้ 495 ล้านบาทปี 2565 ยอดรับรู้รายได้ 900 ล้านบาทและปี 2566 ยอดขาย 1,300 ล้านบาท และรับรู้รายได้ 1,150 ล้านบาท
“ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เราพยายามเข้าไปทุกเซกเมนต์ ครอบคลุมหลากหลายราคา ตั้งแต่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท จนถึง20 ล้านบาท ซึ่งตลาดยังพอเติบโตไปได้อยู่ แต่กลุ่มระดับราคา 2-3 ล้านบาท อาจทำให้สะดุดบ้างจากการยกเลิกผ่อนคลายมาตรการแอลทีวี ทำให้กู้เต็ม 100% ไม่ได้ แต่เราเข้าไปแก้ปัญหาเป็นราย ๆ ไป ”
อย่างไรก็ตามสัดส่วนการปฏิเสธสินเชื่อ กลุ่มบ้านทาวน์เฮ้าส์สูงสุดที่ 30% บ้านเดี่ยว 20% และบ้านหรู 10% ส่วนBacklog อสังหาอยู่ที่ 300 ล้านบาท