ALLY REIT โชว์ผลงานปี 65 ทำรายได้รวมแตะ 1,592.2 ล้านบาท มีผลกำไร 619.4 ล้านบาท
ALLY REIT โชว์ผลงานปี 65 ธุรกิจศูนย์การค้าเติบโต ทำรายได้รวมแตะ 1,592.2 ล้านบาท มีผลกำไร 619.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.2% ปี 66 เตรียมทุ่ม 1,000 ล้านบาท ลุยขยายพอร์ตธุรกิจ ALLY REIT ต่อ หลังพบปี 66-67 ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกให้เช่ามีแนวโน้มสดใส
นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY REIT เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาส 4/2565 กองทรัสต์มีโครงการศูนย์การค้าภายใต้การบริหารจัดการอยู่ 13 โครงการ ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์, โครงการศูนย์การค้าเดอะ คริสตัล เอกมัย - รามอินทรา, โครงการศูนย์การค้าเดอะ คริสตัล เอสบี (ราชพฤกษ์), โครงการศูนย์การค้าอมอรินี่ รามอินทรา, โครงการศูนย์การค้าแอมพาร์ค จุฬา, โครงการศูนย์การค้าเพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล, โครงการศูนย์การค้าสัมมากร เพลส รามคำแหง (เวสต์), โครงการศูนย์การค้าสัมมากร เพลส รังสิต, โครงการศูนย์การค้าสัมมากร เพลส ราชพฤกษ์, โครงการศูนย์การค้าเดอะ ซีน ทาวน์ อิน ทาวน์, โครงการศูนย์การค้ากาดฝรั่ง วิลเลจ, โครงการศูนย์การค้าเดอะ คริสตัล ชัยพฤกษ์ และโครงการเดอะ ไพร์ม หัวลำโพง โดยมีพื้นที่ให้เช่าสุทธิประมาณ 160,214 ตารางเมตร ซึ่งทุกโครงการได้รับความสนใจจากลูกค้าผู้ใช้บริการ รวมถึงผู้เช่าเป็นจำนวนมาก ไตรมาส 4/2565 มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการศูนย์การค้าในเครือ ALLY REIT ทั้ง 13 โครงการ เพิ่มขึ้นกว่า 128% ทำให้ยอดขายของร้านค้าผู้เช่ากลับขึ้นมาอยู่ที่ 100% และส่งผลให้ภาพรวมของอัตราการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าในเครือ ALLY REIT ทุกแห่ง เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ระดับที่ 93.4% ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาแล้ว หลังจากที่ชะลอตัวในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผลประกอบการทั้งปี 2565 ของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้น 41.2% ทำรายได้รวมแตะ 1,592.2 ล้านบาท มีผลกำไร 619.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.2%
"รายได้และผลกำไรที่เพิ่มขึ้น คาดว่า เกิดจากการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ออกมาใช้เงิน ใช้จ่าย สังสรรค์ และทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น ขณะเดียวกันเกิดจากการเข้าลงทุนในทรัพย์สินใหม่ๆ เพิ่มเติม ช่วงต้นปี 2565 อาทิ อาคารสำนักงานเดอะไพร์ม หัวลำโพง ทำให้ ALLY REIT มีมูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 13,508.3 ล้านบาท เติบโต 3.2% หรือ 413.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ศูนย์การค้าต่างๆ ภายใต้การบริหารจัดการของ ALLY REIT ยังมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการในสาขาต่างๆ เพิ่มขึ้น อาทิ CDC Balloon Festival, Sky Camping Festival, Acoustic Contest รวมถึงมีร้านค้าทยอยเข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นด้วย อาทิ AFTER YUM, CQK หรือชาบูหม่าล่า ที่เปิดตัวอยู่ที่โครงการเดอะคริสตัล เอกมัย - รามอินทรา เป็นต้น"
นายกวินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จครั้งนี้ ทำให้ไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ ได้ประกาศจ่ายปันผล 0.1730 บาท/หน่วย ซึ่งทำให้ตลอดทั้งปี 2565 ALLY REIT มีมูลค่ารวมการจ่ายปันผลกว่า 568.2 ล้านบาท หรือ 0.6500 บาท/หน่วย อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 8.6% (ราคาปิดตลาดที่ 7.55 บาท/หน่วย ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566) สำหรับปี 2566-2567 คาดว่าแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าจะเติบโตดีขึ้นจากการบริโภคภาคเอกชนที่กระเตื้องขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงความคืบหน้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการลงทุนพื้นที่ค้าปลีกตามมา แต่ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อรับมือการแข่งขันที่รุนแรงจากอุปทานพื้นที่ค้าปลีกที่กำลังเร่งตัวภายใต้การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่หลายแห่ง ขณะที่ร้านค้าออนไลน์ หรือ E-commerce ก็ยังคงเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดพื้นที่ค้าปลีกมากขึ้น ทั้งนี้ ALLY REIT มีแผนที่จะขยายพอร์ตธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2566 ได้เตรียมเงินลงทุนไว้กว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับเข้าลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพสูง ทำเลทอง มีผู้เช่าพื้นที่ที่มีคุณภาพ ทั้งที่เป็นสำนักงานออฟฟิศ และศูนย์การค้าในรูปแบบคอมมูนิตีมอลล์ และอีก 3 ปีข้างหน้า มีแผนลงทุนเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าให้ ALLY REIT เป็น REIT Top-5 ของประเทศที่มีโครงการศูนย์การค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
"ปัจจุบัน ALLY REIT มี Credit Rating ที่ BBB+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต Stable ซึ่งเป็น Investment Grade ที่สะท้อนถึงศักยภาพและผลงานการบริหารทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของ ALLY REIT ซึ่งเป็นศูนย์การค้าชุมชนหรือคอมมูนิตีมอลล์ ตลอดจนกระแสเงินสดที่มีความสม่ำเสมอจากสัญญาเช่าและบริการตามสัญญา และนโยบายการบริหารงานของผู้บริหาร การวางแผนธุรกิจเพื่อขยายการลงทุน และการวางแผนทางการเงินที่ระมัดระวัง ส่งผลให้ ALLY REIT จะสามารถระดมทุนได้จากการออก หุ้นกู้ เพื่อลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพเพิ่มเติมในอนาคตปีละไม่ต่ำกว่า 3 - 5 โครงการ และสามารถลดอัตราดอกเบี้ยจากการกู้เงินได้ด้วย" นายกวินทร์ กล่าวทิ้งท้าย