ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดโครงการใหม่ปี 66 รวม 60 โครงการมูลค่า 8 หมื่นล้าน
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ลุยเปิดโครงการใหม่ รวม 60 โครงการมูลค่า 8 หมื่นล้านบาท สูงสุดรอบ 14 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง เร่งขยายธุรกิจคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร เฮลท์แคร์ โรงแรม ศูนย์การค้า มั่นใจอสังหาริมทรัพย์โตแรง เร่งกลยุทธ์สร้างการเติบโตและดูแลผู้บริโภคอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า แผนธุรกิจของบริษัทในปี 2566 เตรียมขยายโครงการในเครือรวม 60 โครงการ มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่อยู่อาศัย รวม 42 โครงการมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 22 โครงการ มูลค่า 2.75 หมื่นล้านบาท โครงการบ้านจัดสรร 20 โครงการ มูลค่า 2.25 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันจะมีการเปิดโครงการ โรงแรมและออฟฟิศ 11 โครงการ มูลค่า REIT 2.55 หมื่นล้านบาท และโครงการกลุ่มโลจิสติกส์และคลังสินค้า จำนวน 7 โครงการ มูลค่า REIT 4,500 ล้านบาท ทำให้ในปี 2566 ออริจิ้นมีการเปิดโครงการใหม่รวมและโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมากที่สุดนับก่อตั้งบริษัทมาร่วม 14 ปี มาจากการที่ บริษัทมุ่งสร้างการเติบโตและดูแลผู้บริโภคอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อทำให้เครือ ออริจิ้น กลายเป็น Well-Being Lifetime Company หรือ องค์กรที่มีธุรกิจครอบคลุมการดูแลผู้บริโภคตลอดชีวิต
สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ในกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ หรือ ออริจิ้น เฮลท์แคร์ ทั้ง คลินิกความงาม คลินิกทันตกรรม คลินิกสัตว์เลี้ยง คลินิกเส้นผม โดยมีแผนจะเปิดไปในโครงการที่อยู่อาศัยในเครือ ออร์ริจิ้น จำนวนรวม 25 แห่งภายในสิ้นปี 2566 และจะขยายไปให้บริการในต่างจังหวัดด้วย
“บริษัทเป็นผู้นำรายแรกๆ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายโครงการไปในกลุ่มเฮลท์แคร์ โดยมีบริการหลากหลายและครอบคลุมกับทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยคาดว่าอีกสองปีนับจากนี้จะมีกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะหันมาขยายบริการนี้มากยิ่งขึ้น”
พร้อมกันนี้เตรียมแผนนำบริษัทย่อยเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อเนื่อง ทั้งบริษัท วัน ออริจิ้น บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ และ บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ จากที่ผ่านมา ได้นำ บริษัท บริทาเนีย หรือ BRI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2564 และ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2565
ทั้งนี้ตามแผนงานที่วางไว้ ทำให้ในสิ้นปี 2566 จะสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยรวม 4.50 หมื่นล้านบาท และสร้างรายได้รวม 1.90 หมื่นล้านบาท สำหรับการดำเนินโครงการมาจนถึงในปัจจุบันมีรวม 123 โครงการ มูลค่าโครงการ 180,000 ล้านบาท มีธุรกิจหลักเป็นบ้านและคอนโดมิเนียม ส่วนธุรกิจใหม่ที่เป็นศูนย์การค้า กลุ่มเฮลท์แคร์ กลุ่มโรงแรม และออฟฟิศ
คอนโดมิเนียมเปิด 22 โครงการ ส่งแบรนด์ ดิ ออริจิ้น เจาะ Gen Z
นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด 5 แบรนด์ ประกอบด้วย แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Paly) และดิ ออริจิ้น (The Origin) โดยในปีนี้มีการเปิดตัวใหม่รวม 22 โครงการ แบ่งเป็น ช่วงครึ่งปีแรก 14 โครงการ และในครึ่งปีหลัง 8 โครงการ เน้นหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ
ขณะเดียวกันได้นำแบรนด์ ดิ ออร์จิ้น กลับมาขยายตลาดอีกรอบ โดยเป็นคอนโดมิเนียมกลุ่มไฟท์ติ้งแบรนด์ ที่มีราคาอยู่ที่ 9.9 แสนบาทไปจนถึง 1.5 ล้านบาท จะเปิดตัวรวม 7 โครงการ มูลค่า 6,070 ล้านบาท รองรับกลุ่มลูกค้าคนที่กำลังเริ่มต้นทำงานและกลุ่มGen Z พร้อมมีแบรนด์ใหม่ ออริจิ้น เพลส (Origin Place) สำหรับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพและสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก
“การเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในปีนี้ เป็นเปิดต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีและมองแนวโน้มกำลังซื้อในตลาดคอนโดมิเนียมยังมีอยู่”
นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด กล่าวว่า โครงการใหม่ในกลุ่มโรงแรมและศูนย์การค้า ในปีนี้จะมีจำนวน 11 โครงการ เน้นในตลาดท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งใน กทม. ภูเก็ต เชียงใหม่ เขาใหญ่ และประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมกลุ่มธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง ตามสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวที่ขยายตัว คาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยสูงถึง 30 ล้านคน
ผศ.นพ.ชวกิจ ภูมิบุญชู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้มีการเปิดกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เป็นบริการเฮลท์แคร์ Mediplex ที่รวมทั้งคลินิกความงาม ทันตกรรม คลินิกสัตว์เลี้ยง คลินิกเส้นผม รวมถึงมีแผนเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทาง ในปีนี้รวม 1 แห่งเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก เพื่อดูแลสุขภาพของคนที่อยู่ในพื้นที่
โดยกลุ่มธุรกิจบริการเฮลท์แคร์ มีแผนขยายเข้าไปอยู่ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของออริจิ้น โดยจะเน้นกลุ่มโรงแรมระยะแรก หลังจากนั้นจะขยายไปในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม เพื่อให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2568 จะมีโครงการในกลุ่มเฮลท์แคร์รวมถึง 55 โครงการ จากปัจจุบันมีโครงการที่เปิดดำเนินการรวม 25 โครงการ
นายปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อิสดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีโครงการที่บริหารในกลุ่มโลจิสติกส์และคลังสินค้ารวม 5 โครงการ พื้นที่รวมประมาณ 2.2 แสน ตร.ม. อยู่ในพื้นที่ทั้ง บางนา กม.22 บางนา กม.19 รังสิต แหลมฉบัง และพานทอง คาดว่าในปีนี้จะขยายเพิ่มกว่า 2 แสน ตร.ม. ทำให้ภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีพื้นที่ภายใต้การบริหารรวม 1 ล้าน ตร.ม. ซึ่งจะขยายไปในจุดยุทธศาสตร์สำคัญและพื้นที่ อีอีซี รองรับการเติบโตของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม พร้อมเน้นดำเนินการพื้นที่คลังสินค้าด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
