เสนาฯชูESGสร้างแต้มต่อสู่ความยั่งยืนแตกไลน์ธุรกิจใหม่รับเมกะเทรนด์

“เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ภารกิจใหม่ของเสนานับจากนี้ จะอยู่ภายใต้กรอบของ “Growing sustainable business, using social challenges & mega trends” ในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายทางสังคมและเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่แปรปรวน และปัญหาสิ่งแวดล้อม (Climate Change) ถือเป็นความท้าทายทางสังคม (Social Challenge ) ของภาคธุรกิจ ในการบริหารจัดการปัญหาและผลักดันให้เป็นยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจบนแนวคิดสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม

“ต่อจากนี้ไปเสนา ไม่ใช่แค่บริษัทขายบ้าน คอนโดมิเนียมแต่จะเป็น THE ESSENTIAL LIFELONG TRUSTED PARTNER เพื่อสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงชีวิต เพื่อธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการให้น้ำหนักกับ ESG (Environment-Social-Governance) ในการพัฒนาสินค้าและบริการที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้น”

ในปี 2566 เสนา จึงมีการลงทุน 9,000 กว่าล้านบาทเปิด 12 ธุรกิจใหม่เพื่อสร้างแต้มต่อทางธุรกิจ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ กลุ่มแรกจะเป็นธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้พื้นฐานธุรกิจหลักคืออสังหาฯ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตลูกบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย

1. แพลตฟอร์ม “SMARTIFY” ยกระดับการบริการลูกค้าและลูกบ้านของเสนา​สู่ระดับอัจฉริยะ​ด้วย​ AI ผ่าน​ Biometric เช่น​ Facial Recognition, Cardless Services เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตภายในโครงการที่พักอาศัย เพื่อสร้างชุมชนอัจฉริยะ​ ​หรือ SENA SMART CITY ซึ่งเป็นการจับมือบริษัท เอ็นอีซี คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ NEC Thailand ที่ปรึกษาเทคโนโลยีด้านไอที

2. “เงินสดใจดี” ธุรกิจบริการทางการเงินที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้า พร้อมเพิ่มทักษะในการบริหารจัดการและวางแผนทางด้านการเงินให้กลุ่มคนรุ่นไหม่และลูกค้าปัจจุบันของเสนา

3. ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ “Acute Realty ” เพื่อให้ลูกบ้านของเสนา หมดความกังวลเรื่องการขายต่อ หรือปล่อยเช่า รวมถึงตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการลงทุนด้านอสังหาฯ

4. ธุรกิจบริหารนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ “Victory & ACRM ”

เพื่อทำให้ลูกบ้านหมดความกังวลใจด้วยการบริหารแบบมืออาชีพ พร้อมให้ความสำคัญด้านการประหยัดพลังงาน และสุขภาพ

5. ธุรกิจบ้านมือสอง “SENA SURE” คัดสรรที่อยู่อาศัยมือสองด้วยมาตรฐานเดียวกับการส่งมอบที่อยู่อาศัยใหม่ ในราคาที่สมเหตุสมผล ยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการสำหรับบ้านมือสองในตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจกับลูกค้า

ขณะที่กลุ่มสองจะเป็นธุรกิจขยายพอร์ตสินค้าและให้บริการครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายทางสังคม โดยมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Sen X เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย

6. ธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียม ตลอดจนบริหารงานขายและการตลาด เพื่อขยายพอร์ตบ้านเดี่ยวในระดับราคา 8-20 ล้านบาท

7. การบริหารจัดการด้าน Hospitality เต็มรูปแบบ “Hotel & Service Apartment Management” ผ่านการจัดการด้วยมืออาชีพในการบริหารจัดการการเช่าที่พักอาศัยทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยมีมาตรฐานสูงสุดด้านความสะอาด ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ผ่านการจัดการด้วยเทคโนโลยี สร้างการลงทุนแนวใหม่สำหรับนักลงทุนรายย่อย โดยมีผลประโยชน์ที่น่าสนใจให้มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจเช่าพักอาศัย

8. ธุรกิจสถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว ภายใต้ชื่อ “SJ HEALTHCARE” เพื่อรองรับการเติบโตของสังคมสูงอายุพัฒนา Medical Wellness Center และ Primary Care สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการและความกังวลด้านดูแลสุขภาพโดยเฉพาะ

9. ธุรกิจคลังสินค้า ภายใต้ชื่อ “METROBOX” โดยร่วมกับพันธมิตร Leo Global Logistics พัฒนาคลังสินค้ามาตรฐานสากลเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ โดยวางแผนพัฒนาในทำเลยอดนิยม และมีความต้องการสูง พร้อมด้วยความปลอดภัย และระบบการจัดการอัจฉริยะ

10. ยกระดับการพัฒนาโครงการบ้านติดโซลาร์สู่การพัฒนาบ้านพลังงานเป็นศูนย์ “ZERO ENERGY HOUSING” (ZEH)” ลดการใช้พลังงานได้ไม่ต่ำกว่า 20 % ในบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมของเสนาร่วมกับ บริษัท ชิเซ็น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Shizen เพื่อลงทุนและศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ในการขยายตลาดด้านพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งการติดตั้ง “โซลาร์แนวตั้ง” สำหรับอาคารสูง

11. ธุรกิจ EV Charging Station ที่ให้บริการชาร์จรถไฟฟ้าเพื่อรองรับลูกบ้านในโครงการและลูกค้าทั่วไปในอนาคต

และ 12. บริษัท SENA REFORESTATION ปลูกป่ารักษาโลก ตามเป้าเจตนารมณ์ 100,000 ไร่

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัย ปี 2566 เสนาเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 26 โครงการ รวมมูลค่า 24,024 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 9 โครงการ มูลค่า 7,471 ล้านบาท และคอนโด 17 โครงการ มูลค่า 16,553 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการร่วมทุนกับ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป 22 โครงการ มูลค่า 21,210 ล้านบาท โดยวางเป้าหมายยอดขาย 18,242 ล้านบาท และยอดโอน 16,539 ล้านบาท