ตราเสือคอลแลปส์TIGER x PHANNAPASTรุกขยายกลุ่มมิลเลนเนียล

ตราเสือคอลแลปส์TIGER x PHANNAPASTรุกขยายกลุ่มมิลเลนเนียล

ตราเสือต่อยอดการทำ Brand Commerceดึงยูน ปัณพัทศิลปินไทยระดับโลกลุยโปรเจกต์คอลแลปTIGER x PHANNAPAST รุกขยายกลุ่มมิลเลนเนียลต่อเนื่องเปิดตัวแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ไอเทมคอลเลกชัน“Beware of TIGER”ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และเหล่าแฟชั่นนิสต้า

สยามรัฐ สุทธานุกูล Chief Marketing Officer - Cement and Green Solution Business บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า กว่า 108 ปี ตราเสือ มุ่งพัฒนาและส่งมอบนวัตกรรมด้านปูนซีเมนต์และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์งานตกแต่งพื้นผิวผนังและงานก่อสร้างทุกประเภท เพื่อตอบความต้องการลูกค้า พฤติกรรมการใช้งาน และเทรนด์ที่เปลี่ยนไป ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการเข้าถึงและสร้างความใกล้ชิด (Brand Engagement) กับกลุ่มผู้รับเหมา ช่าง สถาปนิก และเจ้าของบ้าน รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ

 โดยที่ผ่านมานำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และงานดีไซน์ต่าง ๆ มาจัดโชว์เคสที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์แรกในตลาดวัสดุก่อสร้างไทยที่สร้างการสื่อสารแบรนด์มิติใหม่ ฉีกกรอบการเป็นแบรนด์ปูนซีเมนต์ทั่วไป ด้วยการทำ Brand Commerce หลากหลายรูปแบบ ภายใต้แบรนด์ตราเสือและเสือไลฟ์สไตล์ โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของแนวทางนี้คือ กลยุทธ์ Collaborative Marketing 

ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทจับมือกับแบรนด์ชั้นนำและกลุ่มนักออกแบบชื่อดังมากมาย เพื่อสร้างสรรค์แคมเปญและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ อาทิ ปูนตราเสือ X เอ็ม-150 จัดแคมเปญฮึดสู้อย่างเสือ หัวใจเกินร้อย, คิด-จาก-ถุง โปรเจกต์กระเป๋า Upcycle จากถุงปูนซีเมนต์รอการทำลาย, TIGER X Renim Project แฟชั่นสุดครีเอทที่ยูนีคและเท่ไม่ซ้ำใคร จนได้รับเลือกให้ไปจัดแสดงในงาน LA Fashion Week 2019, TIGER X BangkokTales สินค้าคอลเลกชันเสือ มหาเศรษฐี รับตรุษจีน เป็นต้น โดยทุกโปรเจกต์ได้รับการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมายและตลอดระยะเวลา 2 ปี สร้างยอดขายจากการทำ Brand Commerce ได้มากกว่า 20 ล้านบาท”

ตราเสือคอลแลปส์TIGER x PHANNAPASTรุกขยายกลุ่มมิลเลนเนียล

 ล่าสุด สานต่อกลยุทธ์ดังกล่าว เปิดตัวโปรเจกต์ “TIGER x PHANNAPAST” จับมือ “คุณยูน ปัณพัท เตชเมธากุล” ศิลปินและอิลลัสเตรเตอร์ไทยที่น่าจับตามองแห่งยุค ที่มีผลงานการออกแบบสุดโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ร่วมนำเสนอคอลเลกชันแห่งปี “Beware of TIGER” เปิดตัวสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ 30 SKUs ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า หมวก กระบอกน้ำ และอีกมากมาย

 ยูน ปัณพัท เตชเมธากุล ศิลปินและอิลลัสเตรเตอร์ไทย ผู้ออกแบบคอลเลกชัน Beware of Tiger กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกที่ยูนได้นำเอกลักษณ์และลวดลายการออกแบบของตัวเองมาสร้างสรรค์คอลเลกชันไลฟ์สไตล์ที่มีความเรียบง่าย ไม่สลับซับซ้อน โดยคอลเลกชัน Beware of TIGER เป็นการนำเอาความน่าไว้วางใจและเชื่อถือได้ของแบรนด์ตราเสือมาถ่ายทอดผ่านงานดีไซน์ภายใต้คอนเซปต์ ‘เสือลายพาดกลอน’ 

ตราเสือคอลแลปส์TIGER x PHANNAPASTรุกขยายกลุ่มมิลเลนเนียล

เพราะเชื่อว่าทุก ๆ คนจะมีคาแรกเตอร์ของความเป็นเสือซ่อนอยู่ในตัวเอง โดยลายของเสือจะออกแบบให้มีความแข็งแรงของปูนตราเสือ แต่มีกลิ่นอายและเอกลักษณ์ในแบบของยูน ซึ่งยูนนำดีเทลของอาร์ตเวิร์กไปใช้กับเทคนิคที่หลากหลายประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งการปัก การคัตติ้ง และการวางลายพิมพ์ ยูนตั้งใจให้คอลเลกชันนี้ เป็นไลฟ์สไตล์แฟชั่นที่ทุกคนสามารถใช้และใส่ได้ในทุกวัน สามารถสนุกกับการนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์เพิ่มความชิค ความคูลให้ตัวเองได้ไม่ซ้ำเลยค่ะ”

ตราเสือคอลแลปส์TIGER x PHANNAPASTรุกขยายกลุ่มมิลเลนเนียล

 พร้อมกันนี้ ตราเสือ ยังนำลวดลายที่ได้รับการสร้างสรรค์ภายใต้โปรเจกต์ความร่วมมือนี้ ไปต่อยอดพัฒนาเป็นลวดลายผนัง ผ่านเทคนิคพิเศษจากผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ตกแต่งตราเสือ เพื่อนำเสนอการใช้งานปูนซีเมนต์ตกแต่งที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิมในงานสถาปนิก 2566

พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าใหม่ 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์ตกแต่งสำเร็จรูป งานมาร์เบิ้ลเรนเดอร์ สูตรอีซี่มิกซ์ Natural Series, เสือ เดคอเรทีฟ สแลบ และเสือ คัลเลอร์ซีเมนต์ ที่ตอบโจทย์งานปูนซีเมนต์ตกแต่งทั้งพื้นและผนัง

“คุณยูน ถือเป็นนักออกแบบไทยที่มีชื่อเสียงในวงการออกแบบระดับโลก เราจึงมั่นใจว่าทุกไอเทมไลฟ์สไตล์ภายใต้โปรเจกต์นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีและช่วยพาแบรนด์ไปใกล้ชิดกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น ในอนาคตเราจะเดินหน้าสานต่อการทำ Brand Commerce อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับแบรนด์ให้ทันสมัย สร้างแบรนด์ให้เป็นที่เชื่อมโยง และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พร้อมขยายไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่และนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ปูนตราเสือ รวมไปถึงขยายโอกาสและความสามารถในการขยายแบรนด์ด้าน Decorative Lifestyle ต่อไป” สยามรัฐ กล่าว

โดยคอลเลกชันพิเศษนี้จะเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกที่งานสถาปนิก’66 และช่องทางออนไลน์ Shopee และ Lazada ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.นี้เป็นต้นไป พร้อมวางแผนขยายการจำหน่ายไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวรับการเปิดประเทศต่อไป