MQDCชูแพ็กเกจทดลองอยู่ดิแอสเพนทรีดึงวัย50+เปิดประสบการณ์ Life-time Care

ประชากรซิลเวอร์เอจในเมืองไทยที่ขยายตัวสูงต่อเนื่องนับเป็นตลาดศักยภาพสูงด้วยอำนาจซื้อที่พร้อมจ่าย! สำหรับสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัว โดยเฉพาะทางด้านสุขภาพและที่พักอาศัย ซึ่งคนวัย 50+ วันนี้มีแนวโน้มอายุยืนมากขึ้น ทำให้มองหาโครงการที่อยู่อาศัยที่มาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีสุขภาพดี มีอิสระ พึ่งพาตัวเองได้ ปราศจากความกังวลใดๆ 

“คนทุกวันนี้คาดหวังที่จะมีชีวิตหลังเกษียณแบบสบายๆ มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 25 ปี และมีสุขภาพแข็งแรงแม้จะอายุ 80-90 ปีแล้วก็ตาม”

เฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ที่ เดอะฟอเรสเทียส์ ภายใต้การพัฒนาของ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง กำลังมองหาที่พักอาศัยที่เข้าใจความต้องการซึ่งมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของตนมากขึ้น

"โครงการที่พักอาศัยเซ็กเมนต์ใหม่นี้มีศักยภาพสูงมากในตลาด คนวัยนี้ที่ยังแข็งแรง อยากใช้ชีวิตได้อิสระ มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ต่างไปจากเดิม อยากได้บริการที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย มีกิจกรรมที่จะมาเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ทั้งทางกายและใจ”
 

จับโอกาสและพฤติกรรมลูกค้าเป้าหมายมาผสานกันนำสู่แนวคิดดูแลตลอดชีวิต (Life-time Care) ผ่าน “ดิ แอสเพน ทรี” ที่พักอาศัยโปรเจกต์แรกของ MQDC ที่มุ่งจับตลาดวัย 50+  ตั้งอยู่ในพื้นที่ 398 ไร่ของ “เดอะ ฟอเรสเทียส์”  โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนใหญ่สุดในไทย ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างบริเวณกิโลเมตรที่ 7 ถนนบางนา-ตราด

เฮ จูน พาร์ค ย้ำว่า “ผู้สูงวัยมักจะอาศัยอยู่กับลูกหลานอันเป็นที่รัก แต่เพราะเป็นคนต่างรุ่น ต่างวัยกัน ทำให้มีความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน แบบของบ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาจไม่สมบูรณ์สำหรับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย โดยเฉพาะการดูแลรักษาสุขภาพ"

 สำหรับ ดิ แอสเพน ทรี เป็นที่พักอาศัยแบบคอนโดมิเนียมและสกายวิลล่าระดับเฟิร์สคลาส จำนวน 290 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 83-253 ตร.ม.ทุกยูนิตมองเห็นผืนป่าเดอะ ฟอเรสเทียส์ 30 ไร่เต็มตา พร้อมดีไซน์ที่ให้ความปลอดภัย เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยวัย 50+ ภายใต้แนวคิดการดูแลตลอดชีวิต  กล่าวได้ว่าจ่ายเงินซื้อบ้านครั้งเดียวนอกจากจะได้ที่พักอาศัย เจ้าของบ้านจะได้รับประกันสุขภาพครอบคลุมความจำเป็นด้านการรักษาพยาบาลไปจนถึงอายุ 99 ปี ได้รับการดูแลการใช้ชีวิต 24 ชั่วโมง บริการต่างๆ เช่น แม่บ้าน อาหารสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลด้านโภชนาการเป็นพิเศษ คลับเฮาส์ที่มีโปรแกรมฟิตเนสพิเศษในการบริหารร่างกายและจิตใจ กิจกรรมทางสังคม อาทิ กลุ่มเรียนศิลปะ งานฝีมือ แม้กระทั่งบริการอำนวยความสะดวกการเดินไปที่ทาวน์เซ็นเตอร์ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ หรือเดินเล่นในป่า 30 ไร่

ดิ แอสเพน ทรี ยังมีศูนย์สุขภาพและสมอง (Health & Brain Center) ที่มีบริการทางการแพทย์พิเศษเฉพาะ ซึ่งความครบวงจรของบริการต่างๆ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงของผู้พักอาศัยอันเกิดจากความไม่แน่นอนต่างๆ ในชีวิตให้น้อยลง

“แนวคิด Life-time Care จะช่วยขจัดความวิตกกังวลที่เป็นปัญหาใหญ่ของวัย 50 ปีขึ้นไป ให้อยู่อย่างมีความสุข สบายใจไปกับไลฟ์สไตล์ได้ในขณะที่อายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเงิน เพราะไม่มีภาระค่าส่วนกลางที่ต้องจ่าย หมดกังวลเรื่องจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ หรือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ เพราะทั้งหมดนี้รวมเอาไว้ในราคาที่ซื้อกับโครงการแล้ว”

เจาะโอกาสสูงวัยเพิ่ม2เท่าในปี2593

วิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการของ MQDC กล่าวเสริมว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในโลก จากปี 2528 ประชากรไทยอายุมากกว่า 60 ปี มีราว 6% ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า!  สัดส่วนอยู่ที่ 20% ของประชากรทั้งหมด จากรายงานแนวโน้มประชากรโลกของสหประชาชาติ คาดว่าประเทศไทยจะมีพลเมืองอาวุโสเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีก 2 เท่า ภายในปี 2593 หรือ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดของไทยจะเป็นคนสูงวัย

“คนสูงวัยที่เพิ่มขึ้นมีสุขภาพดีกว่าเมื่อก่อน เราจะมีคนจำนวนมากขึ้นที่แสวงหาการใช้ชีวิตแบบสบายๆ มีความสุขในช่วงวัย 60 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องการพึ่งพาใคร สามารถใช้ชีวิตอิสระ แบบที่เป็นตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่ชอบ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมการใช้ชีวิตอิสระโดยไร้ความกังวล ที่ ดิ แอสเพน ทรี จึงมีความสำคัญเป็นพิเศษต่อคนรุ่นนี้”

นอกจากนี้ คนวัยทำงานในประเทศไทยมีจำนวนลดน้อยลง คาดไม่เกิน 2 ปี คนสูงวัยจะมีจำนวนมากกว่าเด็กๆ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์!!

แนวโน้มดังกล่าว หมายความว่าจะมีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มองหาที่อยู่อาศัยซึ่งมีบริการที่ช่วยให้ตนเองใช้ชีวิตอย่างอิสระไร้ความกังวลได้ในช่วงวัยที่สวยงาม โดยไม่ต้องพึ่งพาให้ลูกหลานต้องกังวลคอยช่วยเหลือดูแลปรนนิบัติ

“เทรนด์นี้คล้ายหลายประเทศทั่วโลก จึงเชื่อว่าตลาดที่พักอาศัยสำหรับคนวัยนี้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวต่างชาติที่อยากเข้ามาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในเมืองไทย ที่มีบริการสนับสนุนต่างๆ โดยเฉพาะมิตรไมตรีจิตที่เป็นนิสัยประจำชาติของคนไทย”

แพ็กเกจทดลองอยู่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล

เพื่อสร้างการรับรู้และประสบการณ์ Life-time Care เจาะตรงกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป MQDC ได้เปิดแพ็กเกจทดลองอยู่ในโครงการดิ แอสเพน ทรี  โดยแพ็กเกจทดลองอยู่ระยะเวลา 1 ปี มีให้เลือกสำหรับห้องพักขนาด 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 80-123 ตร.ม. ส่วนแพ็กเกจทดลองอยู่ระยะเวลา 5 ปี มีให้เลือกห้องพักขนาด 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอน แต่มีบริการเพิ่มเรื่องประกันสุขภาพตลอดระยะเวลาที่พักอาศัย ซึ่งหากลูกค้าตัดสินใจเลือกดิ แอสเพน ทรี เป็นที่อยู่อาศัยถาวรเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาทดลองอยู่ เงินที่จ่ายไปในช่วง 5 ปีนั้น จะนำมาหักออกจากราคาที่จะอยู่ตลอดชีวิตด้วย

ลูกค้าจองซื้อยูนิตขนาด 2 ห้องนอน ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิ.ย.2566 จะได้รับเครดิตสำหรับซื้อบัตรโดยสารการบินไทย พร้อมเป็นสมาชิกสะสมไมล์ รอยัล ออร์คิด พลัส ระดับโกลด์ 2 ปี ขณะที่ลูกค้าชาวต่างชาติ จะได้รับบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท การ์ด มูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าเพื่อการพำนักในประเทศไทยในระยะยาว รวมทั้งเวาเชอร์ซื้อเฟอร์นิเจอร์

เดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการต้นแบบแห่งใหม่ของโลกในการพัฒนาเมืองที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นบนพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับคนต่างวัย ต่างไลฟ์สไตล์ ในอาณาบริเวณเชื่อมถึงกัน ได้แก่ คอนโดมิเนียมมัลเบอร์รี่โกรฟ บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม มัลเบอร์รี่โกรฟวิลล่า รองรับครอบครัวขยายหลายเจนเนอเรชั่น คอนโดมิเนียมวิสซ์ดอมและซิกส์เซนส์เรสซิเดนซ์ ซึ่งประกอบด้วยวิลล่าหรูภายใต้การบริหารของแบรนด์ซิกส์เซนส์