'ชิค'เดินหน้าประมูลโครงการแนวราบ-แนวสูงตุนแบ็คล็อก

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน เผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2566 แนวโน้มเติบโตดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจ ภาคการท่องเที่ยวภาคอสังหาฯ ที่ทยอยฟื้นตัว ช่วยเสริมความเชื่อมั่นผู้บริโภค ผลักดันให้การใช้จ่ายภายในประเทศเติบโต ส่งผลให้ความต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น

โดยบริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์พัฒนาสินค้าใหม่ที่ผลิตภายในประเทศ รวมถึงคัดสรรเฟอร์นิเจอร์คุณภาพและนำเข้ามาจำหน่ายเพื่อสร้างความหลากหลาย อาทิ กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพ ชูจุดเด่นเฟอร์นิเจอร์ที่มีนวัตกรรม โดดเด่นดีไซน์และฟังก์ชัน อย่างครบวงจร รวมถึงการบริหารจัดการด้านการขนส่งให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น 

ทั้งนี้ บริษัทดำเนินการจัดหาสินค้าแบรนด์ที่มีศักยภาพเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์ ล่าสุด บริษัทร่วมกับพันธมิตร เปิดตัวแบรนด์ที่นอน "Serta" ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ผลิตที่นอนที่ดีที่สุดในโลกมีการวางจำหน่ายทั้งหน้าร้านและออนไลน์  อีกทั้ง บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์ ESG (Environmental, Social and Governance) โดยบริษัทได้ร่วมมือกับ PTBI ในการส่งต่อพลาสติกเข้าร่วมโครงการวน และนำพลาสติกมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค รวมถึง แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Ashley เลือกใช้ไม้เก่าที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งถือเป็นการให้ความสำคัญกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท ก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

รวมทั้ง เดินหน้าประมูลงานโครงการแนวราบ-แนวสูงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 116 ล้านบาท  พร้อมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล ที่มีศักยภาพและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯและเจ้าของบ้านหันมาใช้บริการด้านออกแบบ ตกแต่งภายใน แบบครบวงจรมากขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการ Event Organizer, Developer ให้ความสนใจใช้บริการด้านการจัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน จัดพร๊อพโดยสไตล์ลิสมืออาชีพเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจ "Chic Rent In Style"
 

 นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาศักยภาพช่องทางจำหน่ายออนไลน์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยมองว่าศักยภาพช่องทางออนไลน์ยังมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นสะท้อนจากยอดขายจากช่องทางออนไลน์ที่มีการเติบโตขึ้นตลอด และเร่งพัฒนาสินค้าเพื่อจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุม

ในส่วนของธุรกิจบริการให้เช่าพื้นที่ บริษัทเน้นกลยุทธ์ ปรับปรุงและใช้ประโยชน์จากการบริหารจัดการใช้พื้นที่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยจัดสรรพื้นที่ให้เช่า สำหรับร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้าน pet shop ที่มีศักยภาพ และตรงกับไลฟ์สไตล์และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผลักดันให้บริษัทมีรายได้ประจำมากขึ้น (recurring income) ส่งผลให้รายได้รวมเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้รวม 150 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 218 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 0.79 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท