โอซาก้าขุมทรัพย์ใหม่‘เซ็นทารา’จ่อลงทุนต่อเกียวโต

ญี่ปุ่น ประเทศหมุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ยิ่งหลังโควิด-19 เทรนด์ท่องเที่ยวเพื่อล้างแค้น หรือ “Revenge Travel” มาแรง ขณะที่หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวหลัก “โอซาก้า” เตรียมจัดงานใหญ่ โอซาก้า World Expo 2025 และยังมีการพัฒนา กาสิโนรีสอร์ตคอมเพล็กซ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยว นับเป็นขุมทรัพย์แห่งใหม่ของทุนโรงแรมสัญชาติไทย “เซ็นทารา” ปักหมุดให้บริการโรงแรมแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น "เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า"

ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้าเป็นแลนด์มาร์กใหม่ในโอซาก้า ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรร่วมทุน  ไทเซอิ คอร์เปอเรชั่น และ คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ โดยเซ็นทารา ถือหุ้นสัดส่วน 53% ส่วนพาร์ทเนอร์ 2 บริษัทรวมกัน 47% ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 9,000 ล้านบาท 

“ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ของคนไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวในเอเซียแปซิฟิก เซ็นทารา สนใจเข้าลงทุนในญี่ปุ่นมาหลายปีแล้วตามแผนขยายกิจการในต่างประเทศ มอง 2 เมืองหลัก โตเกียว และโอซาก้า”
 

โอซาก้า มีความน่าสนใจอย่างมาก  เพราะเป็นจุดศูนย์กลางที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวในหัวเมืองต่างๆ ได้สะดวก เช่น หากไปเกียวโต ระยะทาง 50 กิโลเมตร หรือนารา ก็อยู่ใกล้ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวไทย ทั้งมีแหล่งช้อปสะดวก เช่นย่านชินไซบาชิ ย่านอุเมดะ ตั้งเป้าหมายลูกค้าเข้าพักในภาพรวมเป็นกลุ่มโลคัล 30-40% ต่างชาติ 60% เป็นคนจีน เกาหลี 20-25% รวมถึงคนไทย ส่วนที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆ

  “ในฐานะเป็นโรงแรมเปิดใหม่ ที่อยู่ในโลเกชั่นที่ดี จะได้รับการตอบรับที่ดี จากจุดขายที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในการผสมผสานวัฒนธรรมไทยและญี่ปุ่น เชื่อว่าจะไปได้ดีในเดือนแรกมียอดการเข้าพัก 51-52% ช่วง 6 เดือนหลังคาดอัตราการเข้าพัก 70% สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวญี่ปุ่นค่อนข้างมาก จากเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น อย่างการบินไทยจะเพิ่มเที่ยวบินมาโอซาก้าจาก 7 เป็น 13 ไฟล์ท ช่วงไตรมาส 4 ดีมานด์จะเพิ่มขึ้นอีก ถือว่าฟื้นตัวกลับมาค่อนข้างเร็วหลังโควิด มีปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงิน และดีมานด์สูงจากการที่ญี่ปุ่นปิดประเทศเป็นระยะเวลานาน”

ธีระยุทธ กล่าวต่อว่า นโยบายการลงทุนของเครือเซ็นทารามีทั้งรูปแบบการลงทุน 100% หรือร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ และรับบริหาร ซึ่งการดำเนินธุรกิจต้องพิจารณาทั้งความพร้อมของธุรกิจ การเงิน ความเสี่ยง คุุ้มหรือไม่? 

สำหรับ เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า เป็นการลงทุนที่ดีและตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทที่ต้องการขยายตลาดมายังประเทศญี่ปุ่น เหมือนในมัลดีฟส์ เป็นการร่วมทุน ส่วน “เวียดนาม” เป็นรูปแบบรับบริหาร 

พร้อมกันนี้ ยังสนใจเข้าลงทุนธุรกิจโรงแรมในเกียวโต ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เพราะเป็นทัวริสต์ เดสติเนชั่น ที่อาจพัฒนาโครงการโรงแรมแห่งที่ 2 ในประเทศญี่ปุ่น

กันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในประเทศที่บริษัทมีความมั่นใจที่จะเข้าไปลงทุน แต่เป็นโลเกชั่นใหม่ที่ยังไม่เคยไป อาจเริ่มจากการรับจ้างบริหารก่อน ส่วนญี่ปุ่นและมัลดีฟส์ ได้ทำการศึกษามาอย่างดี เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยวที่ดี เช่นเดียวกับ ดูไบ ที่มีการลงทุนโดยตรง

“การท่องเที่ยวของญี่ปุ่นแข็งแรงทั้งชาวต่างชาติและคนไทย สังเกตได้จากอัตราการเข้าพักเทียบปี 2562 ลดลงน้อยกว่าประเทศอื่น  ซึ่งโอซาก้า เกียวโต และโตเกียว เป็นเมืองหลักที่อยู่ในโรดแมปการลงทุนของบริษัทที่ต้องการขยายห้องพักมากขึ้น”

ส่วนมุมมองทางการเงินในแง่ผลตอบแทนจากการลงทุนในญี่ปุ่นนั้นสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ด้วยโครงสร้างทางการเงิน ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารญี่ปุ่น ทำให้ต้นทุนทางการเงินที่ดี รวมทั้งความยืดหยุ่นในการรีไซเคิลเงินทุนต่างๆ สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการมีพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญการก่อสร้าง ระเบียบวิธีการต่างๆ ในญี่ปุ่น

สำหรับแผนการขยายเชนโรงแรมในไทยและต่างประเทศของเซ็นทารา ปี 2566 มีทั้งสิ้น 6 แห่ง 1,270 ห้องพัก รวม 5 แห่ง ในไทย และ 1 แห่งในญี่ปุ่น ประกอบด้วยเซ็นทารา อุบล 160 ห้องพัก เปิดให้บริการ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า 515 ห้องพัก เปิดบริการ 1 ก.ค. เซ็นทรา บาย เซ็นทารา ละไม รีสอร์ท สมุย 61 ห้องพัก เปิดบริการไตรมาส 3 เซ็นทารา อยุธยา 224 ห้องพัก เปิดบริการไตรมาส 3 เซ็นทารา วัน ระยอง 200 ห้องพัก เปิดบริการไตรมาส 4 และ เซ็นทรา บาย เซ็นทารา สุราษฎร์ธานี 110 ห้อง เปิดบริการไตรมาส 4

ชิเกกิ นาคากาวา ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า กล่าวว่า โรงแรมตั้งอยู่ย่านนัมบะ บนโลเกชั่นที่สะดวกในการเดินทาง สามารถนั่งรถไฟจากสนามบินคันไชมาลงที่สถานีนัมบะ ใช้เวลา 45 นาที และสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอื่นๆ ได้ง่าย ทั้งเกียวโต นารา ฮิโรชิมา หรือ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ

“เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า” เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว สูง 33 ชั้น 515 ห้องพัก มีร้านอาหารหลากหลาย 8 โซน มีสปาเซ็นวารี การตกแต่งได้รวบรวมความสวยงามและเอกลักษณ์ของไทยและญี่ปุ่นมาผสมผสานกันให้บริการที่อบอุ่นแบบไทยและอ่อนน้อมของญี่ปุ่น มีคนไทยทำงานราว 10% จากพนักงานทั้งหมดกว่า 200 คน

"ที่สำคัญมีการนำเสนอวัฒนธรรมผ่านอาหาร รวมถึง รถตุ๊กตุ๊ก ที่ให้บริการรอบๆ นัมบะ เป็นจุดขายที่สร้างความแตกต่าง นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารที่เป็นรูฟท็อป สูง 140 เมตร ซึ่งในโอซาก้าไม่มีรูฟท็อปที่มีวิวสวยงามเช่นนี้มาก่อน"

นาคากาวา กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมในโอซาก้า แข่งขันค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากกำลังมีงานโอซาก้า World Expo ในปี 2025 ดังนั้นโรงแรมที่เป็นอินเตอร์เชน ไม่ว่าจะเป็นฮิลตัน โฟร์ซีซั่นส์ หรือเครือโรงแรมคาเพลลา มีแผนที่เปิดตัวภายในปี 2025 เช่นกัน เพื่อรองรับดีมานด์ผู้ที่เข้ามาพักในช่วงนั้น 

นอกจากนั้นยังมีการเปิดสถานประกอบการท่องเที่ยวครบวงจรรวมถึงกาสิโน ที่เปิดบริการในปี 2028-2029 และมีการเปิดตัวโรงแรมของ MGM จำนวน 2,000-4,000 ห้องในโอซาก้า 

"แต่ในโอซาก้า มีโรงแรมระดับลักชัวรีค่อนข้างน้อย จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของ เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ในการเข้ามาทำตลาด ซึ่งในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ อินเตอร์เชนมีความได้เปรียบ เพราะมีเมมเบอร์โปรแกรมที่ใช้ได้ในหลายประเทศ ซึ่ง เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า มีเมมเบอร์ชิพโปรแกรม เซ็นทารา เดอะวัน ทำให้มีกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่แข็งแกร่ง"