ปัจจัยลบทุบอสังหาฯหวังยาแรงกระตุ้นกำลังซื้อ

ปัจจัยลบทุบอสังหาฯหวังยาแรงกระตุ้นกำลังซื้อ

ตลาดอสังหาฯที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยลบ ทำให้ชะลอตัว ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น-ต้นทุนพุ่ง-ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงหลายคนตั้งความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ เข้ามาช่วย กระตุ้นเกำลังซื้อกลับคืนมา

อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลังขึ้นอยู่กับปัจจัยการเมืองว่า จะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ และรัฐบาลใหม่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่หากได้รัฐบาลที่ดีสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทำให้เศรษฐกิจขยายและเติบโตได้ เชื่อว่าครึ่งปีหลังสถานการณ์จะดีขึ้น แม้หลายคนจะมองว่างบประมาณแผ่นดินเริ่มจะไม่ทันแล้ว เพราะงบประมาณฯ เป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน ส่งเสริมอะไรต่างๆ หลายอย่าง ซึ่งหากไม่ทันจริงต้องรอปีหน้า 

ปัจจัยที่สองคือเรื่องของนักท่องเที่ยว ซึ่งเริ่มมีข่าวว่าจีนจะปล่อยให้นักท่องเที่ยวออกนอกประเทศ ซึ่งประเทศไทยตอนนี้การท่องเที่ยวเป็นหัวใจสำคัญ ถ้าการท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลังกลับมาตั้งแต่เดือน ต.ค. เมืองท่องเที่ยวจะดีขึ้นและหวังว่าจีนเข้ามามากขึ้นได้ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์เอาไว้

“ภาคท่องเที่ยวกับอสังหาฯ สามารถโตไปด้วยกันได้ แต่ยังไม่มีใครบอกได้ว่า จะเป็นอย่างไรต่อ และหากมีปัจจัยบวกอื่นๆ เช่น หากมีรัฐบาลเข้ามาช่วยกระตุ้นการส่งออก ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมา เพราะครึ่งปีหลังมีปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวก ภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดลดลงกว่าต้นปีที่ผ่านมา เพราะครึ่งปีแรกตัวเลขต่างๆ ไม่ดีอย่างที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นแม้จะตั้งรัฐบาลช้าก็ยังดีกว่าไม่มา”

ดอกเบี้ยขาขึ้น-ต้นทุนพุ่ง

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น มีผลต่อดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านและทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงสถานการณ์เงินเฟ้อสูงขึ้นจากปีก่อนทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นแล้ว 8% แม้ปีนี้ราคาน้ำมันจะไม่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้วัสดุก่อสร้างขึ้นเล็กน้อย แต่สถานการณ์ค่าแรงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หากรัฐบาลใหม่ขึ้นค่าแรง 450 บาทจะกระทบต้นทุนราคาบ้านเพิ่ม 4-5%


 

ทั้งนี้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปีนี้คาดว่าจะขยายตัวสอดคล้องกับ จีดีพี 3% แต่หากตั้งรัฐบาลใหม่ได้เร็วพร้อมมีมาตรการใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ จะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ จากปัจจุบันตลาดเผชิญปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงถึง 15 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90% ของจีดีพี ทำให้ตลาดระดับล่างกู้ซื้อบ้านยากขึ้น

หวังยาแรงรัฐบาลใหม่กระตุ้นกำลังซื้อ

แสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ตลาดอสังหาฯ อยู่ภาวะยากลำบากจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว และการแข่งขันในกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดบ้านระดับบน เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อ ขณะที่ตลาดระดับกลาง-ล่างได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง โดยเฉพาะกลุ่มระดับล่างที่กระทบทำให้ยอดถูกปฏิเสธสินเชื่อสูงเพิ่มขึ้น 57.2% จากเดิม 52.9% เพิ่มขึ้น 4%

นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้คนซื้อบ้านต้องผ่อนนานมากขึ้น อีกทั้งสถานการณ์การเมืองมีความผันผวน หากประเมินภาพรวมฐานพีระมิดของประเทศไทยคือ รวยกระจุก จนกระจาย ดังนั้นผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลง โดยการออกแคมเปญเพื่อให้ส่วนลดแก่ลูกค้า ปรับแผนธุรกิจด้วยความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมทั้งการปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการลดสิ่งที่ไม่เกิดมูลค่าโดยแนวคิดของระบบลีน (LEAN)

“หากครึ่งปีหลังมีรัฐบาลใหม่เข้ามาทุกอย่างน่าจะดีขึ้น เป็นปัจจัยบวกที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพื่อสร้างผลงาน ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาฯ อยากให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นตลาดใช้ยาแรงมาฟื้นอสังหาฯ อาทิ ให้ดอกเบี้ยพิเศษแก่คนที่ซื้อบ้านหลังแรก การยืดหยุ่นในการปล่อยกู้มากขึ้น ยกเลิกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย( LTV) ออกมาตรการใหม่มาครอบคลุมตลาดบ้านราคาแพงเพื่อกระตุ้นดีมานด์ เป็นต้น”