โนเบิลจ่อเปิดคอนโดร่วมทุนฮ่องกงแลนด์ถ.วิทยุพร้อมบ้าน-ทาวน์โฮมไฮเอนด์
โนเบิล ปรับแผนเหยียบคันเร่งเปิดตัวคอนโดร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ ถ.วิทยุ เดือนก.ย.นี้พร้อมโครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9-เอกมัย บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์และโครงการ โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ ทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ติดแม่น้ำเจ้าพระยารองรับดีมานด์ฟื้น
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังมีสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แม้ว่าลูกค้าต่างชาติจากประเทศจีนจะยังเข้ามาได้ไม่เต็มที่ก็ตาม บริษัทจึงได้มีการปรับพอร์ตกระจายฐานลูกค้าต่างชาติให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง และเมียนมา เป็นต้น พร้อมกันนี้พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าชาวต่างชาติเปลี่ยนไป โดยจะเน้นซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ในปี2566 บริษัทจึงได้มีการปรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า22,200 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าแผนที่วางไว้จากเดิม 10 โครงการมูลค่ารวม23,300 ล้านบาท โดยเริ่มจากโครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9-เอกมัย เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์คาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนก.ย.นี้ โครงการ โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ เป็นโครงการทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ติดแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนก.ย.นี้และโครงการร่วมทุนคอนโดขนาดใหญ่ที่ร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ บนถนนวิทยุ
ครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมที่ 4,478 ล้านบาท เติบโต 76% YoY และกำไรสุทธิอยู่ที่ 184 ล้านบาท เติบโต 990% YoY ทั้งนี้แม้ว่าบริษัทจะไม่มีโครงการใหม่ประเภทคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมโอนในครึ่งปีแรกของปี 2566
แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตของผลประกอบการไว้ได้ดี ทั้งนี้โครงการรับรู้ในช่วงครึ่งปีแรกที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นหลักๆมาจากการส่งมอบโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) อาทิ โครงการโนเบิล บี19 สุขุมวิท โครงการโนเบิล สเตท สุขุมวิท 39 โครงการนิว โนเบิล ศรีนครินทร์–ลาซาล โครงการโนเบิล อราวน์ อารีย์ โครงการนิว โนเบิล งามวงศ์วาน และโครงการนิว โคฟ นอร์ธ ราชพฤกษ์ เป็นต้น
สำหรับยอดขายไตรมาส 2/2566 และ 7 เดือนแรกที่ผ่านมาอยู่ที่ 4,040 ล้านบาท และ 9,706 ล้านบาทตามลำดับรวมโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการ นิว ครอส คูคต สเตชัน ซึ่งทางบริษัทฯ ยังคงเป็นผู้บริหารโครงการในบทบาทเดิม
โดยยอดขาย 7 เดือนแรกของปี 2566 มาจากโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เป็นจำนวน 2,808 ล้านบาท และโครงการเปิดใหม่และอยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นจำนวน 6,898 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นเดือนก.ค.2566ในมือรวมมูลค่า 17,940 ล้านบาทไม่รวมโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชันซึ่งจะทยอยรับรู้ใน 2-3 ปีข้างหน้า
"ในช่วงไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เริ่มมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ภายใต้บริษัท เซิร์ฟ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งธุรกิจดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดจากธุรกิจหลักที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นผู้ให้บริการหลังการขายครบวงจรเต็มรูปแบบ ทั้งบริการการฝากขาย-ปล่อยเช่า บริหารนิติบุคคล บริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ประจำอย่างต่อและเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"
นอกจากนี้ การที่โนเบิลได้บรรลุข้อตกลงกระบวนการขายเงินลงทุนและโอนหุ้นดีล 2 โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ให้กับ PROUD เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2566 ที่ผ่านมาทำให้บริษัทได้รับกระแสเงินสดกว่า 1,400 ล้านบาทเข้าบริษัททันที พร้อมบันทึกเป็นกําไรพิเศษในไตรมาส 3/2566 นี้ เสริมผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้น