ถอดรหัส DNAแสนสิริ องค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่
ถอดรหัส DNAแสนสิริ องค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด สะท้อนจาก 2 รางวัลใหญ่แห่งปี “องค์กรที่ New Generation คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด” และ “องค์กร 1 ใน 5 Top of Mind ในฐานะ Diversity & Inclusion 2023
ปัจจุบันความคิดและทัศนคติของคนทำงานเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กำลังเข้าสู่โลกการทำงาน องค์ประกอบที่ใช้ตัดสินใจเลือกองค์กรเข้าไปทำงานนอกเหนือจากค่าตอบแทน สวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กร “การเรียนรู้เพื่อเสริมทักษะ” ให้แก่พนักงานอยู่เสมอเป็นจุดดึงดูดความสนใจคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนองค์กร
“แสนสิริ” บริษัทอสังหาริมทรัพย์หนึ่งในองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด สะท้อนจาก 2 รางวัลใหญ่แห่งปี “องค์กรที่ New Generation คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด” และ “องค์กร 1 ใน 5 Top of Mind ในฐานะ Diversity & Inclusion 2023 บริษัทที่มีความโดดเด่นด้านการยอมรับความหลากหลายและความเท่าเทียมในองค์กร” จาก QGEN บริษัทที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน People & Organization
ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ Chief of Staff บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น การที่บริษัทจะประสบความสำเร็จได้ ควรขึ้นอยู่กับว่าจะทำอย่างไรให้คนที่เข้ามาทำงานอยู่กับเราต่อไปในระยะยาว
"เวลาเลือกพนักงานเราไม่ได้เน้นดูที่ Talent เป็นหลัก เราอยากได้คนที่ต้องการพัฒนาตนเอง อยากเรียนรู้ตลอดเวลา โหยหาการเรียนรู้มากกว่าคนที่เป็นน้ำเต็มแก้ว"
ทั้งนี้ 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดรับคนที่ “ไม่มี”ประสบการณ์เข้ามาทำงานมากขึ้น ทั้งด้านงานขาย วิศวะ โครงการ การพัฒนาสินค้า การตลาด ฯลฯ จากเดิมเน้นคนที่มีประสบการณ์ ซึ่งหายากและบางคนไม่สามารถเข้ากับวัฒนธรรมการทำงานของแสนสิริ ที่เน้น “สปีด ทู มาร์เก็ต” ทำงานรวดเร็ว สามารถแก้ปัญหาได้ทันที แม้กระทั่งออฟฟิศได้ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานได้ตลอดเวลา
ความท้าทายของ ภูมิภักดิ์ คือการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรของแสนสิริให้ตอบโจทย์กับสิ่งที่คนรุ่นใหม่มองหาเพื่อเป็นแรงจูงใจและดึงดูดให้คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วย นอกเหนือจาก “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตผู้บริหารแสนสิริ และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จากพรรคเพื่อไทย ไอดอลของคนรุ่นใหม่ ทำให้อยากเข้ามาทำงานที่แสนสิริ
"จากการสอบถามผู้สมัครในช่วงที่ผ่านมาพบว่า คุณเศรษฐาเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดให้คนอยากสมัครเข้ามาทำงานที่แสนสิริ เพราะอยากเรียนรู้ ได้มาร่วมงานด้วยเสมือนเป็นไอดอล ผนวกกับแสนสิริ เป็นแบรนด์ที่มีกิจกรรมตอบสนองความรู้ของคนรุ่นใหม่ได้ชัดเจน เช่น พันธกิจ Net-Zero ของแสนสิริ เพราะอยากเป็นหนึ่งใน Good Citizen ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม"
ภูมิภักดิ์ กล่าวว่าที่ผ่านมาผู้บริหารและพนักงานได้ซึมซับ DNA ของแสนสิริ ที่มาจากคุณเศรษฐา ทวีสิน มาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ “สปีดทูมาร์เก็ต” ในการคิดวางแผนไปข้างหน้าไม่ใช่ทำตามตลาด ยิ่งทุกวันนี้คู่แข่งก็อปปี้เร็วขึ้น ยิ่งต้องทำงานให้เร็วขึ้น หรือถ้ามีปัญหาต้องแก้ให้เร็ว ยกตัวอย่าง ช่วงโควิด-19 จัดโปรโมชั่นลดราคาเคลียร์สต็อกรายแรกในวงการอสังหาฯ แต่ช่วงเวลานี้ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นแล้วทุกอย่างปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ หรือการปรับเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น ในรูปแบบของการทำงานที่บ้าน (Work From Home) เป็นรายแรกของวงการอสังหาฯ ในช่วงโควิด
"แต่ปัจจุบันแสนสิริไม่มี Work From Home ยกเว้นมีเหตุจำเป็น สำหรับเวลาทำงานมีให้เลือกตั้งแต่ 8.00-8.30-9.00-9.30 น. เวลาเลิกงาน 16.30-17.00-17.30 น. เป็นกรอบคร่าวๆ ให้ปฎิบัติ เพราะ Work From Home มีผลิตภาพ (Productivity) ช้าและการที่คนเข้ามาออฟฟิศจะทำให้เกิดการเรียนรู้ แชร์ไอเดียมากกว่า"
แสนสิริยังเปิดโอกาสให้คนเก่งมีความสามารถที่มีผลงานโดดเด่นสามารถเติบโตในหน้าที่การงานได้อย่างรวดเร็ว เมื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถทำงานได้หลากหลาย มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีภาวะผู้นำ ก็สามารถปรับระดับเร็วกว่าพนักงานที่อายุเท่าๆ กัน หรือ เข้างานพร้อมๆ กัน หรือคนที่มีอายุมากกว่า จากการพัฒนาตนเองเพื่อดึงดูดใจให้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานเพราะเห็นเป้าหมายและภาพที่ชัดเจนว่าตัวเองจะพัฒนาไปสู่ความรับผิดชอบที่ดีและสูงกว่าได้โดยไม่ต้องลาออกไปอัพตำแหน่งและเงินเดือนบริษัทอื่น
"เราจึงเน้นรับคนที่มี DNA ตรงกับความเป็นแสนสิริมากกว่าการไปแก่งแย่งคนที่เป็น Talent กับองค์กรอื่น เพราะเชื่อว่าแสนสิริมีกระบวนการพัฒนาที่ดีให้พนักงานใหม่เป็นคนเก่งได้ในอนาคต"
สำหรับ DNA ของแสนสิริ เป็นคนที่มีความอยากพัฒนาตัวเองตลอดเวลา กระหายที่จะประสบความสำเร็จ มีวินัยในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี สำคัญสุดคือ การเป็น Good Citizen ที่รับผิดชอบต่อสังคมใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเคารพในสิทธิของผู้อื่น!