ศุภาลัยลบภาพเก่าผ่านอีเวนต์คอนเทนต์ครีเอเตอร์มัดใจนิวเจน

ที่ผ่านมาศุภาลัยติด“กับดัก”ความเก๋าที่อยู่มานานถึง35ปี เพราะการรับรู้ของผู้บริโภคมองว่าเป็นแบรนด์สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่กลาเป็น“อุปสรรค”ในการขยายฐานลูกค้าหน้าใหม่เข้ามา จึงใช้กลยุทธ์ “Sponsorship” ในกิจกรรมiCreator Conference 2023 Presented by SUPALAI เพื่อให้แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งในการทำกิจกรรมนั้นๆ สร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ นอกจากจะช่วยสร้างภาพจำให้กับผู้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมเหล่านั้นแล้ว ยังสร้างการรับรู้เพื่อนำไปสู่การขายในอนาคต

เหมือนสมัยก่อนแบรนด์ซุปไก่ ต้องการสกัดแล้วเกิดภาพจำว่าเป็นสินค้าสำหรับคนป่วย มาสู่กลุ่มคนรักสุขภาพและครอบครัว ต่อมาขยับมาจับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ด้วยการจัด“แบรนด์ ซัมเมอร์แคมป์” นักเรียนมัธยมปลายที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยกับติวเตอร์ชื่อดังในยุคนั้นก่อนสอบ เอ็นทรานซ์ จนประสบความสำเร็จ 

ทว่าในยุคนี้อาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่ คือ “Content Creator” หรือนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Youtube, Facebook, IG ,Tiktok จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้“ศุภาลัย” เข้ามาให้การสนับสนุนกิจกรรมiCreator เป็นปีที่2แล้ว เพราะเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ 

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาศุภาลัย สื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางทางออนไลน์มากขึ้นทั้งแง่การตลาดและการขายจนมีสัดส่วนกว่า50% จากงบรวมประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อปีเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ "ลดช่องว่าง"ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ด้วยการจัดกิจกรรมที่ทำให้แบรนด์มีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นกลุ่มคนสร้าง“คอนเทนต์ ครีเอเตอร์” หรือกลุ่ม“ผู้เสพ”สื่อจากคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ จึงเป็นที่มาของ Sponsorship  ในงานที่มีการรวมตัวกันของกลุ่มคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เป็นปีที่ 2 

    โดยได้เปิดเซกชั่นพิเศษบนเวทีในหัวข้อ The Future of Workspace ต่อยอดงาน Creative ด้วย “Home Studio” กับความสำคัญของบ้านที่ในปัจจุบัน“ไม่ได้”เป็นเพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็น Workspace แห่งแรงบันดาลใจ เช่นเดียวกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ดีกรีนางเอก PIGKAPLOY - พลอยไพลิน ตั้งประภาพร  Travel Blogger  ใช้พื้นที่คอนโด เป็น Home Studio ในการผลิตผลงาน
 

ไตรเตชะ กล่าวว่าในฐานะดีเวลลอปเปอร์ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงกลุ่มครีเอเตอร์ได้มีพื้นที่ทำงานและสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพได้อย่างไร้ขีดจำกัด จึงนำมาสู่การออกแบบบ้านของศุภาลัยที่แตกต่างจากเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนยุคปัจจุบันที่ “Work from Anywhere”

 ยกตัวอย่าง สิ่งที่บริษัทต้องปรับตัวคือการพัฒนาโครงการคอนโดให้มี “ME CORNER” แม้ว่าคอนโดจะมีขนาดไม่ใหญ่เพื่อให้ลูกค้าสามารถประยุกต์ใช้พื้นที่ให้เข้ากับวิถีการใช้ชีวิต  สำหรับคนทำงานคอนเทนต์ครีเอเตอร์รุ่นใหม่ เพราะคอนโดคือ สถานที่เริ่มต้นของการผลิตคอนเทนต์  โดยการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางให้มีขนาดใหญ่หรือการพัฒนา “STORAGE ROOM ”เพื่อรองรับของสะสม หรืองานอดิเรก เช่น การขายของออนไลน์ หรือต้องการพื้นที่ในการเก็บของ

  "เพราะหากจ่ายเงินเพิ่มในพื้นที่คอนโดขนาดเล็กคงจ่ายไม่ไหว จึงนำพื้นที่คอนโดบางส่วนที่ไม่ติดกับห้อง มานำเสนอในราคาที่ยอมรับได้ "

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาพื้นที่ FOOD DROP และ DROP STORE เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย ที่นิยมซื้อของออนไลน์ ด้วยการพัฒนาพื้นที่คอนโดเพื่อรองรับการซื้อของและอาหารผ่านทางออนไลน์ที่มากขึ้น หรือ การพัฒนาพื้นที่บ้านเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นทาสแมว เป็นต้น 

กลยุทธ์ดังกล่าวของศุภาลัยเสมือนเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่ไม่ได้คาดหวังยอดขาย แต่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อสร้างควาผูกพันธ์ระยะยาว เป็นการยกระดับ Emotional Branding ที่ยึดโยงเรื่องของการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน

 หนึ่งในนั้นก็คือ “คอนเทนต์ ครีเอเตอร์” ที่นับวันจะมีบทบาทและจำนวนเพิ่มขึ้น ที่สำคัญเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ดี ! จากผลสำรวจพบว่า บางคนซื้อคอนโด/ บ้านด้วย“เงินสด”  ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพน่าจับตามอง ! เรียกได้ว่า งานนี้ยิงปืนทีเดียวได้หลายตัว ทั้งในแง่ของแบรนด์ที่สามารถเช้าถึงคนรุ่นใหม่ และกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง