5 ปัจจัยหลักหนุนบริการเช่าห้องจัดเก็บของนอกบ้านบูม
5 ปัจจัยหลักหนุนบริการเช่าห้องจัดเก็บของนอกบ้านบูม อานิสงส์จากการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดในเมืองมีขนาดเล็กลงจาก1 ห้องนอนเดิมมีขนาด 65 ตร.ม. ปัจจุบันเหลือ 28 ตร.ม.!! ผนวกกับไลฟ์สไตล์เปลี่ยนความต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น
เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด กล่าวว่า 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดความต้องการพื้นที่เก็บของนอกบ้าน ประกอบด้วย 1.การเติบโตของเมือง 2. การทำงานที่บ้าน 3. การสะสมสิ่งของ 4.การย้ายบ้านหรือปรับปรุงบ้าน และ5.การเติบโตของธุรกิจขายของออนไลน์
สำหรับตลาดประเทศไทยในปี2566 ถือเป็นปีที่ธุรกิจที่ให้เช่าพื้นที่เก็บของ (Self storage) เติบโตได้ดี สังเกตได้จากการเปิดสาขาเพิ่มเติมของผู้ให้บริการแต่ละรายในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว รวมถึงอานิสงส์จากการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมืองที่มีขนาดห้องเล็กลง ทำให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงยังช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มขึ้น
สอดคล้องกับ ตลาดเอเชียถือได้ว่าเป็นปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Self Storage เพราะมีการนำและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ คาดการณ์ว่าตลาด Self Storage ในเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราเติบโต (CAGR) ที่ 8.36% ในช่วงปี 2565-2570 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์การเติบโตของทั้งตลาดทั่วโลกเกือบเท่าตัว
ปัจจุบัน MeSpace เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม B2C เจ้าของบ้านและคนทั่วไปที่อาศัยในบ้านหรือคอนโดแต่ต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้น และ กลุ่ม B2B ได้แก่ นักธุรกิจ แม่ค้าออนไลน์ หรือ เจ้าของบริษัทที่ต้องการเก็บสต๊อกสินค้า สินค้าคงคลัง อุปกรณ์ ตลอดจนเอกสารสำนักงานต่างๆ
โดยเป้าหมายของ MeSpace คือต้องการทำให้การใช้ชีวิตในเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเพราะเข้าใจในวิถีชีวิตคนเมืองที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด จึงมีบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่านอกบ้าน ด้วย 3 จุดแข็ง ได้แก่
1. Convenience: สะดวกสบาย ใกล้บ้านด้วยจำนวนสาขาที่มากที่สุดในประเทศไทย (10 สาขา นับรวมสาขาที่จะเปิดใหม่ภายในต้นปี 2567) คิดเป็นพื้นที่ให้บริการ 28,000 ตร.ม. ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และมีการขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างจังหวัด
2. Flexible Solutions: มีโซลูชันพื้นที่เก็บของที่หลากหลายให้เลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ ตั้งแต่ห้องเก็บของหลากหลายขนาด ตู้ล็อกเกอร์ ห้องเก็บไวน์ ห้องเก็บของนิรภัย และ ตู้รับฝากของอัตโนมัติ เริ่มต้นเพียง 499 บาท/เดือน (เช่าขั้นต่ำ 1 เดือน) พร้อมบริการรับ-ส่งของเพื่อนำมาเก็บในพื้นที่เก็บของ ผ่านแอปพลิเคชัน CloudRoom รวมถึงบริการเสริมอื่นๆ เช่น บริการขนย้ายพร้อมติดตั้งด้วยผู้เชี่ยวชาญ, บริการจัดเก็บ-แพ็ก-ขนส่ง สำหรับธุรกิจ SME เป็นต้น
3. Worry-free Care: มั่นใจด้วยการดูแลระดับพรีเมียมในพื้นที่จัดเก็บ ติดระบบปรับอากาศทุกสาขา ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และแพ็คเกจประกันภัยที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ รวมถึงการออกแบบห้องเก็บของที่คำนึงถึงความปลอดภัยตามมาตรฐานห้องเก็บของระดับสากล
ปัจจุบัน มีสเปซ เปิดให้บริการครอบคลุมทั้งใน กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และ พัทยา รวม 9 สาขา ล่าสุดได้เปิดสาขาบางซื่อ เป็นสาขาที่ 9 และภายในต้นปี 2567 มีแผนเปิดสาขารัชดา-พระราม 9 ซึ่งเป็นสาขาที่ 10 ถือเป็นผู้ให้บริการที่มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศไทย คิดเป็นพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 28,000 ตร.ม. หรือ คิดเป็นการเติบโตของพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น 78%
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปี 2566 กับปี 2565 โดยคาดการณ์รายได้ปีนี้ 70 ล้านบาท และรายได้ปีหน้า 108 ล้านบาท โดยอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2024 คิดเป็น 53%
สำหรับแผนการเติบโตมีเป้าหมายที่จะทำให้ Self Storage เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองมากขึ้น โดยมุ่งปรับปรุงระบบการให้บริการเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและมีประสบการณ์ที่ดีและสะดวกสบายในการใช้บริการมากขึ้น
ปัจจุบันพื้นที่ให้บริการของ MeSpace คิดเป็น 25-30% ของพื้นที่ให้บริการทั้งหมดภายในประเทศและมีการวางแผนขยายพื้นที่ให้บริการอย่างต่อเนื่องผ่านทาง CPN
ด้าน วุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Head of Community Mall and International Business Development บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ทาง ซีพีเอ็น ในฐานะผู้ถือหุ้นให้การสนับสนุนด้านการจัดหาพื้นที่ให้บริการใหม่ผ่าน Mixed Use Property ของ CPN รวมถึงการขยายฐานลูกค้าของ MeSpace ไปยัง Residential Property โดยเชื่อว่าจะช่วยเติมเต็มความต้องการให้กับลูกค้าบ้านและคอนโดในเครือ CPN ที่ต้องการพื้นที่เก็บของ หรือหาพื้นที่ระหว่างการเตรียมย้ายที่อยู่อาศัยใหม่อีกด้วย