วีรันดาชี้โรงแรม-รีสอร์ทไตรมาส4คึกคักรับไฮซีซั่น

วีรันดาชี้โรงแรม-รีสอร์ทไตรมาส4คึกคักรับไฮซีซั่น

'วีรันดา' มั่นใจธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทไตรมาส4คึกคักรับไฮซีซั่นเตรียมโอนโครงการ 'วีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ' หนุนรายได้อสังหาฯสิ้นปีหลังไตรมาส3ผลงานชะลอตัวชี้เป็นโลว์ซีซั่นและปรับโครงสร้างร้านอาหาร

นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของไทยในไตรมาส 3 ปี 2566 ได้รับผลกระทบจากการธุรกิจท่องเที่ยวไทยยังมีปัจจัยลบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางมายังประเทศไทยน้อยกว่าคาดประกอบกับ VRANDA อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มซึ่งจะแล้วเสร็จในสิ้นปี 2566 นี้

 อย่างไรก็ตามจากโดยสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยของ ททท. ในช่วง 9 เดือนแรก 19 ล้านคน โดยตั้งเป้าไว้ที่ 28 ล้านคน ซึ่งมั่นใจได้ว่าในไตรมาส 4/66 ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก อาทิ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เช่าเครื่องบินเหมาลำเดินทางมาประเทศไทย ฯลฯ เสริมให้ภาพรวมธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทกลับมาคึกคัก
 

ทั้งนี้ VRANDA ยังคงมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยในไตรมาส 4/2566 จะเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการวีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ ด้านการเปิดขาย 'โครงการวีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต' ประกอบด้วย วิลล่า 6 หลัง และคอนโดมิเนียม 12 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมประมาณ 850 ล้านบาท ที่มียอดจองแล้วกว่า 70%

รวมทั้งยังได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยของภาครัฐ อาทิ มาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจากจีน คาซัคสถาน อินเดีย และใต้หวัน ล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีนโยบายผลักดันรายได้การท่องเที่ยวไทยจากตลาดยุโรปให้มากกว่า "5 แสนล้านบาท" ภายในปี 2567 ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท รวมถึงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ VRANDA  
 

สำหรับผลการดำเนินงานของ VRANDA ในช่วง 9 เดือนปี 2566 (มกราคม-กันยายน) มีรายได้รวม 1,026 ล้านบาท มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 219 ล้านบาท โดยมีขาดทุนสุทธิ 28 ล้านบาท

มีสาเหตุหลักจาก VRANDA อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มซึ่งจะสิ้นสุดภายในปีนี้ ขณะที่ไตรมาส 3/2566 มีรายได้รวม 329 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 20 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซันและอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 60 ล้านบาท